วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

ทรายนี้ยังมีรัก โดยวรรณวรรธน์




บรรณาธิการ
ทรายนี้ยังมีรัก
     แสงอาทิตย์ ขยับขยาย คลายประทีป
      จันทร์เผยกลีบ รินไวน์ ในถ้วยสวย
      จงเริงร่า รับรสรัก อย่างรุ่มรวย
      ดื่มหมดถ้วย แล้วโบกลา อย่าอาลัย!

      อย่ากังวลไปกับโชคชะตาที่มี คุณกลับมาแล้วก็ขอให้คุณอยู่ที่นี่ ผมสัญญาจะให้ความสุขกับคุณอย่างเต็มที่จนกว่าเราจะจากกัน ขอให้คุณเบิกบานรับวันเวลาที่เราสองจะได้อยู่ด้วยกัน...จนกว่าจะถึงวันนั้นได้ไหม

      ถึง วันนั้น เราจะต้องจากกันเนิ่นนานนิรันดร์อีกครั้งใช่ไหม
      กว่าเราจะพบกันครั้งนี้ ต้องข้ามภพชาตินับพันปี
     เขา...เฝ้ารอเพียรตามหา เธอ...ตั้งสัจจาธิษฐาษไม่ขอกลับมาดินแดนไร้รัก ของผู้ชายไร้หัวใจ!

     หากวันนี้ สิ่งใดทำให้เธอ อสมายืนหยัด ที่นี่แผ่นดินที่เธอปฏิเสธไม่ขอกลับคืน ฤาเขา ชีคบีนู มีมนตรายิ่งใหญ่ใดพลิกผันให้เธอกลับมา...ปาฏิหาริย์ใช่ไหม?

      บทกวีหนึ่งเคยเอื้อนเอ่ยไว้อย่างลึกซึ้งถึงการเฝ้ารอ....
      ...ครั้งหนึ่ง เคยมีดินโอบน้ำที่ทำให้สองหัวใจได้ใกล้ชิด
      สองเราเคยสนิทกลับต้องไกลห่าง
      ถึงเธอจากร้างไปแสนไกลสุดฟ้า
      ขอให้เธอรู้ว่าฉันยังเฝ้ารอ...รอการกลับมาของเธอ!

      ในภาพฝันอันย้อนนานแสนนานนับพันปี จอมทัพ เอนคิลูแห่งอูรุค ด้วยจงรักภักดีราชบัลลังก์ เขามอบ เธโอรีสนางเดียวที่รักยิ่งกว่าดวงใจให้พระเจ้ากิลกาเมซ จนก่อตำนานเล่าขานถึง กล่องปริศนา ที่เก็บรักษาของสามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งคือมงกุฎดอกไม้แห่งอูรุค หนึ่งคือคทาคร่าดวงวิญญาณนายทัพใหญ่ และอีกหนึ่งคือดวงใจอันซื่อสัตย์ของจอมทัพ

      เอนคิลู พิสูจน์ความพิสุทธิ์ ของพระนางเธโอรีส ด้วยชีวิต!

      กาลปัจจุบัน ผู้ใดครอบครองมงกุฎดอกไม้ คทาจำหลัก และกล่องปริศนาอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้นั้นดุจได้รับอำนาจจากเทวะให้แผ่อำนาจไพศาลครอบคลุมสามทวีป!
     การแย่งชิง ค้นหา...แทบพลิกทรายทุกเม็ด จึงอุบัติ!
       ให้ผืนดิน       ผืนฟ้า            จำตระหนัก
       ผู้ใดครอง     สิ่งอาถรรพ์     สัญญารัก
      จงได้รับ        อำนาจสัตย์     แลภักดิ์ทั่วปฐพี
     
      จากดินแดนเก่าแก่ อูรุค สู่ยุคคาบสมุทรพระจันทร์เสี้ยว ดาริอุสผู้ยิ่งยง จอมทัพแห่งเปอร์เซีย
      เขาผู้หักโซ่ทองแห่งพรหมจรรย์ แตะต้องเทวีบูชาไฟแห่งวิหารด้วยเพลิงเสน่หา แลเทวีก็ยอมสิ้น ยอมแม้ผิดถ้อยสัตย์ถวายตัวต่อเทพเทวา...เทวีย่อมพิสุทธิ์ ชายใดแตะต้องมิได้!

      หากนางยินดีต้องสาปจากองค์เทวะนับพันปี ด้วยรัก
      เขาให้สัจจะ เมื่อเป็นกษัตริย์ จักขอขมาต่องค์เทวะ
      ขอ เทวีอัซม่ามาครองคู่ เป็นองค์ราชินี หากการมิได้เป็นดั่งนั้น เขาแต่งตั้งเธอเป็น เทวาทูต
      เทวาทูต อันผ่านเพลิงเสน่หา จะดำรงศักติแห่งตนเช่นไร

      จบสิ้นกันตรงนี้เถิดท่านดาริอุส ขอตั้งสัจจาธิษฐานไม่ขอกลับดินแดนไร้รักชั่วกัลปา!”

      เทวีอัซม่าทิ้งชีวิตตน ดิ่งทะเลกว้าง ณ หุบผาดำ
      นางยอมต้องสาป ไม่ได้ถือเกิดสิ้นชาติภพ...นับพันปี!!!

      จริงฤา อดีตชาติของสาวไทยร่างบางระหง อสมาคือเทวีอัซม่า คือพระนางเธโอรีส
      และ เขาชีคนัจญ์มุดิน บีนุ อัลอิมาน แห่งอับบาส คือ ภาพปัจจุบันของ เอนคิลู และดาริอุส สองจอมทัพยิ่งใหญ่

      มาเถิด...มาร่วมเดินทางสู่ดินแดนแห่งสัญญารัก
      สู่อาณาจักรใจอันมหาศาลของ เขาและ เธอณ กาลครั้งนั้นอันเนิ่นนานนับพันปี มาฟังเสียงเรียกของตัวเอง

      กลับมาเถิดยอดรัก ทรายนี้....ยังมีรักรออยู่

                                    
                                        สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
                                          เดือนตุลาคม 2551

           ดอกไม้เอย    ดอกไม้               ปริศนา
           เคยสง่า         ชูช่อบาน            คอระหง
           ทาสสวรรค์    พิสูจน์สัตย์         ตัดชีพลง
           ได้บรรจง       รองเพชฌฆาต   ด้วยดอกรัก

  วรรณวรรธน์ สามารถโยงเรื่องราวให้สัมพันธ์กันได้ ทรายนี้ยังมีรัก ทรายล้อมตะวัน เส้นทรายสีเงา อัสวัต ราชันย์แห่งความมืด และท้ายสุด....อขิทโร...ส่วนตัวคิดว่า เรื่องนี้เป็นปฐมบทแห่ง "อัสวัด ราชันแห่งความมืด" ผู้เป็นดั่งดวงจิตหนึ่งของพระเจ้ากิลกาเมซเมื่ออดีตกาลนับพันปี  



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น