บรรณาธิการ
ทรายนี้ยังมีรัก
แสงอาทิตย์ ขยับขยาย คลายประทีป
จันทร์เผยกลีบ รินไวน์ ในถ้วยสวย
จงเริงร่า รับรสรัก อย่างรุ่มรวย
ดื่มหมดถ้วย แล้วโบกลา อย่าอาลัย!
“ อย่ากังวลไปกับโชคชะตาที่มี คุณกลับมาแล้วก็ขอให้คุณอยู่ที่นี่ ผมสัญญาจะให้ความสุขกับคุณอย่างเต็มที่จนกว่าเราจะจากกัน ขอให้คุณเบิกบานรับวันเวลาที่เราสองจะได้อยู่ด้วยกัน...จนกว่าจะถึงวันนั้นได้ไหม ”
ถึง ‘ วันนั้น ’ เราจะต้องจากกันเนิ่นนานนิรันดร์อีกครั้งใช่ไหม
กว่าเราจะพบกันครั้งนี้ ต้องข้ามภพชาตินับพันปี
เขา...เฝ้ารอเพียรตามหา เธอ...ตั้งสัจจาธิษฐาษไม่ขอกลับมาดินแดนไร้รัก ของผู้ชายไร้หัวใจ!
หากวันนี้ สิ่งใดทำให้เธอ ‘อสมา’ ยืนหยัด ‘ที่นี่’ แผ่นดินที่เธอปฏิเสธไม่ขอกลับคืน ฤาเขา ‘ชีคบีนู’ มีมนตรายิ่งใหญ่ใดพลิกผันให้เธอกลับมา...’ปาฏิหาริย์’ ใช่ไหม?
บทกวีหนึ่งเคยเอื้อนเอ่ยไว้อย่างลึกซึ้งถึงการเฝ้ารอ....
...ครั้งหนึ่ง เคยมีดินโอบน้ำที่ทำให้สองหัวใจได้ใกล้ชิด
สองเราเคยสนิทกลับต้องไกลห่าง
ถึงเธอจากร้างไปแสนไกลสุดฟ้า
ขอให้เธอรู้ว่าฉันยังเฝ้ารอ...รอการกลับมาของเธอ!
ในภาพฝันอันย้อนนานแสนนานนับพันปี จอมทัพ ‘เอนคิลู’ แห่งอูรุค ด้วยจงรักภักดีราชบัลลังก์ เขามอบ ‘เธโอรีส’ นางเดียวที่รักยิ่งกว่าดวงใจให้พระเจ้ากิลกาเมซ จนก่อตำนานเล่าขานถึง ‘กล่องปริศนา’ ที่เก็บรักษาของสามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งคือมงกุฎดอกไม้แห่งอูรุค หนึ่งคือคทาคร่าดวงวิญญาณนายทัพใหญ่ และอีกหนึ่งคือดวงใจอันซื่อสัตย์ของจอมทัพ
เอนคิลู พิสูจน์ความพิสุทธิ์ ของพระนางเธโอรีส ด้วยชีวิต!
กาลปัจจุบัน ผู้ใดครอบครองมงกุฎดอกไม้ คทาจำหลัก และกล่องปริศนาอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้นั้นดุจได้รับอำนาจจากเทวะให้แผ่อำนาจไพศาลครอบคลุมสามทวีป!
การแย่งชิง ค้นหา...แทบพลิกทรายทุกเม็ด จึงอุบัติ!
ให้ผืนดิน ผืนฟ้า จำตระหนัก
ผู้ใดครอง สิ่งอาถรรพ์ สัญญารัก
จงได้รับ อำนาจสัตย์ แลภักดิ์ทั่วปฐพี
จากดินแดนเก่าแก่ ‘อูรุค’ สู่ยุคคาบสมุทรพระจันทร์เสี้ยว ‘ดาริอุส’ ผู้ยิ่งยง จอมทัพแห่งเปอร์เซีย
เขาผู้หักโซ่ทองแห่งพรหมจรรย์ แตะต้องเทวีบูชาไฟแห่งวิหารด้วยเพลิงเสน่หา แลเทวีก็ยอมสิ้น ยอมแม้ผิดถ้อยสัตย์ถวายตัวต่อเทพเทวา...เทวีย่อมพิสุทธิ์ ชายใดแตะต้องมิได้!
หากนางยินดีต้องสาปจากองค์เทวะนับพันปี ด้วยรัก
‘เขา’ ให้สัจจะ เมื่อเป็นกษัตริย์ จักขอขมาต่องค์เทวะ
ขอ ‘เทวีอัซม่า’ มาครองคู่ เป็นองค์ราชินี หากการมิได้เป็นดั่งนั้น เขาแต่งตั้งเธอเป็น เทวาทูต
เทวาทูต อันผ่านเพลิงเสน่หา จะดำรงศักติแห่งตนเช่นไร
“ จบสิ้นกันตรงนี้เถิดท่านดาริอุส ขอตั้งสัจจาธิษฐานไม่ขอกลับดินแดนไร้รักชั่วกัลปา!”
เทวีอัซม่าทิ้งชีวิตตน ดิ่งทะเลกว้าง ณ หุบผาดำ
นางยอมต้องสาป ไม่ได้ถือเกิดสิ้นชาติภพ...นับพันปี!!!
จริงฤา อดีตชาติของสาวไทยร่างบางระหง ‘อสมา’คือเทวีอัซม่า คือพระนางเธโอรีส
และ ‘เขา’ ชีคนัจญ์มุดิน บีนุ อัลอิมาน แห่งอับบาส คือ ภาพปัจจุบันของ เอนคิลู และดาริอุส สองจอมทัพยิ่งใหญ่
มาเถิด...มาร่วมเดินทางสู่ดินแดนแห่งสัญญารัก
สู่อาณาจักรใจอันมหาศาลของ ‘เขา’ และ ’เธอ’ ณ กาลครั้งนั้นอันเนิ่นนานนับพันปี มาฟังเสียงเรียกของตัวเอง
‘กลับมาเถิดยอดรัก ทรายนี้....ยังมีรักรออยู่’
เดือนตุลาคม 2551
ดอกไม้เอย ดอกไม้ ปริศนา
เคยสง่า ชูช่อบาน คอระหง
ทาสสวรรค์ พิสูจน์สัตย์ ตัดชีพลง
ได้บรรจง รองเพชฌฆาต ด้วยดอกรัก
วรรณวรรธน์ สามารถโยงเรื่องราวให้สัมพันธ์กันได้ ทรายนี้ยังมีรัก ทรายล้อมตะวัน เส้นทรายสีเงา อัสวัต ราชันย์แห่งความมืด และท้ายสุด....อขิทโร...ส่วนตัวคิดว่า เรื่องนี้เป็นปฐมบทแห่ง "อัสวัด ราชันแห่งความมืด" ผู้เป็นดั่งดวงจิตหนึ่งของพระเจ้ากิลกาเมซเมื่ออดีตกาลนับพันปี

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น