ภูผาหินแกร่งมั่นคง ดำรงนานชั่วฟ้าสลาย
จิตจงมาดมั่นฝังไว้ ธาตุใดแกร่งเท่าธาตุรัก!
‘ ดั่งดวงหฤทัย ‘ เป็นบทประพันธ์ชิ้นเอกของลักษณวดี บรรจงเล่าขานเรื่องราวแห่งรักของ ‘ รังสิมันต์ ’ เจ้าหลวงแห่งแคว้นกาสิก กับ ‘ เจ้าฟ้าหญิงทรรศิกา ’ แห่งพันธุรัฐ ไว้อย่างอ่อนหวานและประทับใจผู้อ่านตลอดมา
“ หม่อนฉันจะไม่กราบทูลอะไร นอกจาก...” อีกครั้งที่สุรเสียงห้าว ต่ำ เอื้อนทำนองเพลงค่อยๆจากพระศอ “ จรดลึกในความทรงจำ ลึกล้ำย้ำรอยสลัก นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น ”
ทรรศิกาแย้มพระโอษฐ์ละมุน ราวบุปผารอวันพรรณรายตามบทเพลง
“ หม่อมฉันก็จะไม่ทูลว่าจะจำ เพราะสิ่งใดที่จำ แปลว่ามีเวลาลืม หากจะทูลว่าหม่อมฉันรู้ เพราะความ ‘รู้’ ไม่มีวันลืม หม่อมฉันรู้...” กระแสรับสั่งหวานนัก
“ ว่าจะเป็นเช่นนั้น...แน่นอน ”
นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้....นานกว่านั้น
คุณรู้ไหม...บทเพลงที่หวานที่สุดแห่งกาสิก เอื้อนเอ่ยถ้อยทำนองว่าอย่างไร บทเพลงที่ผู้ชายร้องให้ ‘ ผู้หญิงคนพิเศษสุด ‘ ของเขาฟัง เพลงบทนั้นร้องไว้เช่นนี้
“เธอ...มิใช่สายน้ำ แต่เธอเย็นฉ่ำชื่นหวาน
เธอ...มิใช่ลำธาร แต่เธอไหลผ่านเนื้อหัวใจ
ความรัก...เสลาสลัก สวยใส
งามใดเล่า งามใด เทียบได้งดงาม...ความรัก
จรดลึกในความทรงจำ ลึกล้ำย้ำรอยสลัก
นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้...นานกว่านั้น”
ใช่...บทเพลงนั้นร้องไว้เช่นนั้น บทเพลงที่ผู้ชายร้องให้ผู้หญิงพิเศษสุดฟัง บทเพลงที่รังสิมันต์เคยทอดสุรเสียงกังวานราวจะรำลึกถึง ‘นิรันดร’ ที่จะมิมีวันผ่านมารำลึกถึง ‘รักนี้’ ที่ไกลเกืนอาจเอื้อม
เพลงนี้เอง...แม้แต่ ทรรศิกา ยามฟังก็ยังไม่ทรงรู้ว่าองค์เจ้าหลวงรังสิมันต์ทรงร้องให้พระองค์ และแล้วกาลเวลาต่อมานั่นแหละจึงทรงรู้ว่า ‘ผู้หญิงพิเศษสุด’ นั้นคือใคร
“ สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของหม่อมฉัน...คือฝ่าบาท ”
ใช่...รักที่ยาวนานกว่านิรันดร คือรักนี้
ใช่...สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของรังสิมันต์คือ องค์เจ้าฟ้าหญิงทรรศิกา!
แน่นอน...’หัวใจ’ อยู่ ณ ที่ใดก็ตาม
วันหนึ่ง ร่างกายย่อมจะ ‘เดิน’ มารวมกับหัวใจจนได้
ในดวงเนตรดำสนิท มิได้ฉายภาพผู้ใด นอกจากผู้ทรงเป็น ‘ดั่งดวงหฤทัย’ แสงแห่ง ‘รังสิมันต์’ มิได้ฉายฉานเฉพาะประชาชนเท่านั้น
หากพระธำรงความอบอุ่นให้ ‘ดวงหฤทัย’ ด้วย
ทรรศิกา...ดั่งดวงหฤทัยของรังสิมันต์
รัชนก นามทอน
บรรณาธิการ
เดือนสิงหาคม ๒๕๔๖
คำโปรยปกหน้า
พระโอษฐ์แย้มสดใสกับความทรงจำอันอ่อนหวาน...
‘เพลง’ นี้ร้องประทานครั้งแรกในอุโมงค์น้ำแข็ง...
เพลงที่อ่อนหวานที่สุดของกาสิก
เพลงที่ผู้ชายจะร้องให้ผู้หญิงคนพิเศษสุดฟัง...
ตอนรับสั่งอย่างนั้นยังเข้าพระทัยว่า
ญิงพิเศษสุดคือพระคู่หมั้น และแล้ว กาลเวลาผ่านมา
‘ผู้หญิงพิเศษสุด’ คือใครเล่า?
“หม่อมฉันไม่เคยสาบาน เพราะศักดิ์แห่งเจ้าหลวงย่อมเหนือคำพูดใดๆ ทว่าวันนี้...ทรรศิกา...ทรงฟังไว้
หม่อมฉันสาบาน...จะมีชีวิตเพื่อรอ...ฝ่าบาท...องค์เดียว”
พระสุรเสียงคลับคล้ายสะดุดนิดๆ...
“ยามใดเสด็จกลับพันธุรัฐ ยามใดที่ทอดพระเนตร
ข้ามขอบทิวเขามา ขอให้ทรงรำลึกว่าหม่อมฉัน
อยู่ยอดอิสินทร มองลงไป...แลหา...พระองค์เดียว
สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของหม่อมฉัน...ฝ่าบาท!”
วรองค์สูง ปราดเปรียว ก้าวตรง เร็ว มั่นพระทัย
สุดปลายทางคราวนี้...’ทรรศิกา’ ยอดรักจะรออยู่
‘หัวใจ’ อยู่ ณ ที่ใดก็ตาม
วันหนึ่ง ร่างกายย่อมจะ ‘เดิน’ มารวมกับหัวใจจนได้
ในดวงเนตรดำสนิท มิได้ฉายฉานภาพผู้ใด
นอกจากผู้ทรงเป็น ‘ดั่งดวงหฤทัย’
‘รังสิมันต์’…มิได้ฉายฉานเฉพาะประชาชนเท่านั้น
หากจะธำรงความอบอุ่นให้ ‘ดวงหฤทัย’ ด้วย
“หม่อมฉันจะไม่กราบทูลอะไร นอกจาก...
จรดลึกในความทรงจำ ลึกล้ำย้ำรอยสลัก
นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้...นานกว่านั้น!”
“หม่อมฉันก็จะไม่ทูลว่าจะจำ เพราะสิ่งใดที่จำ
แปลว่ามีเวลาลืม หากจะทูลว่า หม่อมฉันรู้
เพราะความรู้ไม่มีวันลืม หม่อมฉันรู้....”
กระแสรับนั่งหวานนัก...”ว่าจะเป็นเช่นนั้น....แน่นอน!”
นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น...
แด่เธอ ผู้เป็น ‘ดั่งดวงหฤทัย’

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น