วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

จันทราอุษาคเนย์ โดยวรรณวรรธน์

เหตุผลที่ทำให้คุณอ่านนิยาย....เพราะนิยายไม่ใช่แค่นิยาย


เบื้องหลังงานเขียนลำดับสี่
โดย วรรณวรรธน์
จันทราอุษาคเนย์

นิยายคือนิยาย วลีนี้เป็นวลีที่ได้รับฟังมานานตั้งแต่เด็กๆ อาณาจักรเจนละอยู่ที่ไหน ต้นกำเนิดของอาณาจักรนั้นเป็นอย่างไร ทุกอย่างดูเหมือนจะยังมืดมนในทางวิชาการ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์เล่าขานถึงดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ไว้มากมาย แต่คำนิยามที่ชัดเจน ยังท้าทายผู้สนใจใฝ่รู้แสวงหาคำตอบกันต่อไป
เมื่อประมาณปี พ.ศ.2526 นิทานบนโต๊ะกินข้าวที่คุณพ่อคงเดช ประพัฒน์ทอง ได้เล่าขานให้ลูกฟัง  ถึงตำนานเรื่องราวสองกษัตริย์ลูกพี่ลูกน้อง พระอนุชาที่เจริญชันษากว่าได้ยกดินแดนให้แก่พระเชษฐา และออกแสวงหาดินแดนสู่ปากทะเล จนเข้ามาทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เข้ามาในประเทศไทยและเดินทางเลาะไปตามลำน้ำมูล ด้วยต้งใจอยากให้ลูกได้ลองเขียนนิยายที่มาจากจารึกและตำนานปรับปรากับเขาดู จึงได้บังเกิดเป็น จันทราอุษาคเนย์
จากกลุ่มจารึกของพระเจ้าศรีมเหนทรวรมันในประเทศไทยจำนวน 7 แห่ง
1.จารึกวัดศรีเมืองแอม จังหวัดขอนแก่น
2.จารึกจากปากน้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี
3.จารึกถ้ำเป็ดทอง จังหวัดบุรีรัมย์
4.จารึกวัดสุปัฎนาราม จังหวัดอุบลราชธานี
5.จารึกปากโดมน้ำ จังหวัดอุบลราชธานี
6.จารึกถ้ำภูหมาไน จังหวัดอุบลราชธานี
7.จารึกสุรินทร์(วัดชุมพล) จังหวัดสุรินทร์
ได้ถูกนำมาเป็นหลักฐานเบื้องต้นของการเรียบเรียงเรื่องราว
เป็นที่ประหลาดใจของผู้เขียนว่า ภายหลังจากลงมือเขียนเรื่องนี้ค้างอยู่ประมาณเดือนมกราคม 2549 ก็ได้มีการค้นพบหลักฐานใหม่ของพุทธศตวรรษที่ 12 ในจังหวัดร้อยเอ็ด อันเป็นการเติมเต็มให้เห็นภาพการเดินทางเข้ามาของพระเจ้าศรีมเหนทรวรมันในประเทศไทยชัดเขนขึ้น และยิ่งเห็นพระปรีชาญาณในการปกครองและสร้างความอุดมสมบูรณ์ในการสร้างบ่อน้ำเพื่อขจัดความแห้งแล้งให้แก่ประชาชนของพระองค์ ท่ามกลางบริเวณนาเกลือโบราณ ที่สามารถผลิตเกลือสินเธาว์ได้ไม่มีวันหมดสิ้น จนเป็นที่ขนานนามปรากฎในจดหมายเหตุจีนว่า ทรงเป็น มหาอำนาน ผู้หนึ่งในดินแดนอุษาคเนย์จากการค้าเกลือในสมัยของพระองค์
ตลอดการทำงานชิ้นนี้ ผู้เขียนได้รับความกรุณาจากท่านอาจารย์ ก่องแก้ว วีระประจักษ์ผู้เชี่ยวชาญด้าจารึกในประเทศไทย ท่านได้สนับสนุน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีและยังเป็นที่ปรึกษาในการเขียน จนต้องรื้อแก้ไขงานอยู่หลายครั้ง
และที่สำคัญยิ่ง ต้องขอขอบคุณคุณแม่ ส่งศรี ประพัฒน์ทอง ที่ได้อนุญาตให้ไปรื้อค้นงานค้นคว้าเก่าๆของคุณพ่อมาประกอบการทำงานครั้งนี้โดยไม่บ่น แม้จะโทรมาแย้งตลอดเวลาว่าที่เขียนว่าทำไมนิยายเรื่องนี้อาจารย์บิดานางเอกต้องชื่อลาตินทำไมไม่ให้ชื่อ คงเดชก็ต้องขอกราบขอประทานโทษคุณแม่ที่ต้องขัดใจ เพราะไม่อย่างนั้นนางเอกเรื่องนี้คงต้องเปลี่ยนชื่อ วรรณวรรธน์ไม่ใช่เจ้าจันทราอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ พี่น้อยกับเอสเพรสโซ่อุ่นๆชงมาเติมให้ดื่มไม่เคยขาดตลอดการทำงาน พี่แตง หนึ่ง ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้งานชิ้นนี้เช่นเคย ตลอดจนเพื่อนๆที่ติดตามงานจากเวบพันทิปและ www.watcafe.com จึงใคร่ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้                   
               
ถ้ำเป็ดทองที่เป็นจุดเปิดเรื่องและฉากของเวลาปัจจุบัน เป็นแหล่งโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งในอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มีจารึกของพระเจ้าศรีเหนทรวรมัน ถือเป็นการค้นคว้าชิ้นสุดท้ายของคุณพ่อที่ได้ทำทิ้งไว้เมื่อปี พ.ศ.2529 เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของพระเจ้าศรีมเหนทรวรมันที่ปรากฎในประเทศไทย
        จนกระทั่งยี่สิบปีต่อมาที่ผู้เขียนเขียนเรื่อง จันทราอุษาคเนย์ หลักฐานอีกชิ้นก็ได้ปรากฎขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อเดือนมกราคม 2549 ดังกล่าว จึงได้พยายามทำโครงเรื่องนี้ขึ้นมาในลักษณะตัวละครพ่อ-ลูก ตลอดเวลาที่เขียนมีเรื่องให้ใจหายและต้องเสียน้ำตาทั้งๆที่ไม่ใช่จุดเปลียนแปลงของเรื่องที่สะเทือนอารมณ์ แทบจะเรียกได้ว่าเกิดขึ้นตลอด เพราะเนื้อหาของเรื่องเหมือนจะตอกย้ำให้คิดถึงโต๊ะกินข้าวของคุณพ่อตัวนั้นเสมอ ยิ่งไปดูสถานที่เส้นทางของพระเจ้าศรีเหนทรวรมัน ตามเส้นทางที่คุณพ่อเคยสำรวจทิ้งไว้ ยิ่งใจหายหนักและยิ่งตั้งมั่นว่า ต้องเขียนเรื่องนี้ให้จบไม่ว่าจะผูกเรื่องให้ตัวเองได้งงงวยซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม
        แม้จะใช้เวลาเขียนนานไปสักหน่อยถึงยี่สิบสามปี แต่หวังว่าวันนี้คุณพ่อท่านคงได้อ่านนิยายเรื่องนี้จบแล้ว และที่น่ายินดีที่นิยายเรื่องนี้สามารถเขียนเสร็จสิ้นภายในปีอันเป็นศุภมงคลยิ่งของคนไทยทั้งประเทศเช่นกัน
        ‘ จันทราอุษาคเนย์ ได้ทำหน้าที่เล่าขานตำนานจากลุ่มแม่น้ำโขงและลำน้ำมูลอันน่าพิศวง เพื่อสรางเรื่องราวมอบความบันทึกให้แก่ท่านผู้อ่านได้เพลิดเพลิน รื่นรมย์ ไปกับบทบาทของตัวละคร โลดแล่นตามเรื่องราวต่างๆให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่บนแผ่นดินที่เรายืนอยู่นี้นับถอยหลังไปหลายพันปี
        ดินแดนของเราที่เคยเป็น และยังคงเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมผสมผสานระหว่างความเชื่อและเผ่าพันธ์อันหลากหลายได้อย่างกลมกลืน ความงดงาม ขรึมหลัง บนแผ่นดินผืนนั้น น่าภาคภูมิใจและน่าหลวงใหลไม่แพ้อารยธรรมโบราณอื่นใด
        และนิทานบนโต๊ะกินข้าวเรื่องนั้น ได้จบลงแล้ว ณ บรรทัดนี้
                                                                                                                               
วรรณวรรธน์                                               
๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙
กรุงเทพมหานคร อดีตท้องทะเล แห่งศรีทวารวดี




นี่เป็นอีกเหตุผลที่ชอบอ่านหนังสือของคุณวรรณวรรธน์ และสามารถรองานเขียนแต่ละเล่มได้โดยคิดเสมอว่า อ่านแล้วต้องไม่ผิดหวัง เพื่อสนับสนุนความคิดของตัวเองที่ว่า ในนิยายที่ใครคิดแค่อ่านเพื่อประโลมจิตใจ ไม่มีสาระ ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณคิดผิด??


        พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใด ทรงพระนามว่า จิตรเสน ผู้เป็นพระโอรสของพระเจ้าศรีวีระวรมัน เป็นพระราชนัดดาของ
พระเจ้าศรีสารวเคามะ
แม้โดยศักดิ์จะเป็นพระอนุชา แต่ก็เป็นพระเชษฐาของพระเจ้าศรีภววรมัน
ผู้มีพระนามปรากฎในด้านคุณธรรมแต่ทรงพระเยาว์ พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นได้รับพระนามอันเกิดจากการอภิเษกว่า
พระเจ้าศรีมเหนทรวมัน
หลังจากชนะประเทศนี้ทั้งหมดแล้วได้สร้างพระศิวลึงค์ อันเป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งชัยชนะของพระองค์ฯ
                                                                จารึกวัดสุปัฎนาราม
                                                                จังหวัดอุบราชธานี

ช่วงสงกรานต์หยุดยาว 13 วัน ที่วางแผนไว้ว่าจะเดินทาง ผิดแผนไปหมดเลยนั่งๆนอนๆอยู่ห้อง เบื่อเลยรื้อของทำความสะอาดบ้าน แล้วก็หยิบรูปเก่าๆ มาดูแล้วก็เห็นรูปถ่ายตอนไปไหว้พระที่วัดสุปัฎฯ (ภาพเสมา หรือเปล่าไม่แน่ใจ) เลยหยิบหนังสือเรื่อง จันทราอุษาคเนย์มาอ่านซ้ำ พร้อมดูทีวีช่อง Thai PBS ไปด้วย ปรากฏ รายการ Spirit of Asia เสนอตอนที่เกี่ยวกับอุษาคเนย์พอดี ได้เห็นปราสาทวัดภูที่ประเทศลาว และล่าสุดตลอด อัญมณีแห่งอุษาคเนย์….เลยยิ่งอ่านสนุกและได้ความรู้ยิ่งขึ้น

1 ความคิดเห็น: