เบื้องหลังงานเขียนลำดับสี่
โดย วรรณวรรธน์
จันทราอุษาคเนย์
นิยายคือนิยาย วลีนี้เป็นวลีที่ได้รับฟังมานานตั้งแต่เด็กๆ อาณาจักรเจนละอยู่ที่ไหน ต้นกำเนิดของอาณาจักรนั้นเป็นอย่างไร ทุกอย่างดูเหมือนจะยังมืดมนในทางวิชาการ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์เล่าขานถึงดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ไว้มากมาย แต่คำนิยามที่ชัดเจน ยังท้าทายผู้สนใจใฝ่รู้แสวงหาคำตอบกันต่อไป
เมื่อประมาณปี พ.ศ.2526 นิทานบนโต๊ะกินข้าวที่คุณพ่อคงเดช ประพัฒน์ทอง ได้เล่าขานให้ลูกฟัง ถึงตำนานเรื่องราวสองกษัตริย์ลูกพี่ลูกน้อง พระอนุชาที่เจริญชันษากว่าได้ยกดินแดนให้แก่พระเชษฐา และออกแสวงหาดินแดนสู่ปากทะเล จนเข้ามาทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เข้ามาในประเทศไทยและเดินทางเลาะไปตามลำน้ำมูล ด้วยต้งใจอยากให้ลูกได้ลองเขียนนิยายที่มาจากจารึกและตำนานปรับปรากับเขาดู จึงได้บังเกิดเป็น ‘ จันทราอุษาคเนย์ ’
จากกลุ่มจารึกของพระเจ้าศรีมเหนทรวรมันในประเทศไทยจำนวน 7 แห่ง
1.จารึกวัดศรีเมืองแอม จังหวัดขอนแก่น
2.จารึกจากปากน้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี
3.จารึกถ้ำเป็ดทอง จังหวัดบุรีรัมย์
4.จารึกวัดสุปัฎนาราม จังหวัดอุบลราชธานี
5.จารึกปากโดมน้ำ จังหวัดอุบลราชธานี
6.จารึกถ้ำภูหมาไน จังหวัดอุบลราชธานี
7.จารึกสุรินทร์(วัดชุมพล) จังหวัดสุรินทร์
ได้ถูกนำมาเป็นหลักฐานเบื้องต้นของการเรียบเรียงเรื่องราว
เป็นที่ประหลาดใจของผู้เขียนว่า ภายหลังจากลงมือเขียนเรื่องนี้ค้างอยู่ประมาณเดือนมกราคม 2549 ก็ได้มีการค้นพบหลักฐานใหม่ของพุทธศตวรรษที่ 12 ในจังหวัดร้อยเอ็ด อันเป็นการเติมเต็มให้เห็นภาพการเดินทางเข้ามาของพระเจ้าศรีมเหนทรวรมันในประเทศไทยชัดเขนขึ้น และยิ่งเห็นพระปรีชาญาณในการปกครองและสร้างความอุดมสมบูรณ์ในการสร้างบ่อน้ำเพื่อขจัดความแห้งแล้งให้แก่ประชาชนของพระองค์ ท่ามกลางบริเวณนาเกลือโบราณ ที่สามารถผลิตเกลือสินเธาว์ได้ไม่มีวันหมดสิ้น จนเป็นที่ขนานนามปรากฎในจดหมายเหตุจีนว่า ทรงเป็น ‘ มหาอำนาน ’ ผู้หนึ่งในดินแดนอุษาคเนย์จากการค้าเกลือในสมัยของพระองค์
ตลอดการทำงานชิ้นนี้ ผู้เขียนได้รับความกรุณาจากท่านอาจารย์ ‘ ก่องแก้ว วีระประจักษ์’ ผู้เชี่ยวชาญด้าจารึกในประเทศไทย ท่านได้สนับสนุน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีและยังเป็นที่ปรึกษาในการเขียน จนต้องรื้อแก้ไขงานอยู่หลายครั้ง
และที่สำคัญยิ่ง ต้องขอขอบคุณคุณแม่ ‘ ส่งศรี ประพัฒน์ทอง ’ ที่ได้อนุญาตให้ไปรื้อค้นงานค้นคว้าเก่าๆของคุณพ่อมาประกอบการทำงานครั้งนี้โดยไม่บ่น แม้จะโทรมาแย้งตลอดเวลาว่าที่เขียนว่าทำไมนิยายเรื่องนี้อาจารย์บิดานางเอกต้องชื่อ ‘ลาติน’ ทำไมไม่ให้ชื่อ ‘คงเดช’ ก็ต้องขอกราบขอประทานโทษคุณแม่ที่ต้องขัดใจ เพราะไม่อย่างนั้นนางเอกเรื่องนี้คงต้องเปลี่ยนชื่อ ‘วรรณวรรธน์’ ไม่ใช่ ‘เจ้าจันทรา’ อย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ พี่น้อยกับเอสเพรสโซ่อุ่นๆชงมาเติมให้ดื่มไม่เคยขาดตลอดการทำงาน พี่แตง หนึ่ง ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้งานชิ้นนี้เช่นเคย ตลอดจนเพื่อนๆที่ติดตามงานจากเวบพันทิปและ www.watcafe.com จึงใคร่ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้
ถ้ำเป็ดทองที่เป็นจุดเปิดเรื่องและฉากของเวลาปัจจุบัน เป็นแหล่งโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งในอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มีจารึกของพระเจ้าศรีเหนทรวรมัน ถือเป็นการค้นคว้าชิ้นสุดท้ายของคุณพ่อที่ได้ทำทิ้งไว้เมื่อปี พ.ศ.2529 เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของพระเจ้าศรีมเหนทรวรมันที่ปรากฎในประเทศไทย
จนกระทั่งยี่สิบปีต่อมาที่ผู้เขียนเขียนเรื่อง ‘ จันทราอุษาคเนย์ ‘ หลักฐานอีกชิ้นก็ได้ปรากฎขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อเดือนมกราคม 2549 ดังกล่าว จึงได้พยายามทำโครงเรื่องนี้ขึ้นมาในลักษณะตัวละครพ่อ-ลูก ตลอดเวลาที่เขียนมีเรื่องให้ใจหายและต้องเสียน้ำตาทั้งๆที่ไม่ใช่จุดเปลียนแปลงของเรื่องที่สะเทือนอารมณ์ แทบจะเรียกได้ว่าเกิดขึ้นตลอด เพราะเนื้อหาของเรื่องเหมือนจะตอกย้ำให้คิดถึงโต๊ะกินข้าวของคุณพ่อตัวนั้นเสมอ ยิ่งไปดูสถานที่เส้นทางของพระเจ้าศรีเหนทรวรมัน ตามเส้นทางที่คุณพ่อเคยสำรวจทิ้งไว้ ยิ่งใจหายหนักและยิ่งตั้งมั่นว่า ต้องเขียนเรื่องนี้ให้จบไม่ว่าจะผูกเรื่องให้ตัวเองได้งงงวยซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม
แม้จะใช้เวลาเขียนนานไปสักหน่อยถึงยี่สิบสามปี แต่หวังว่าวันนี้คุณพ่อท่านคงได้อ่านนิยายเรื่องนี้จบแล้ว และที่น่ายินดีที่นิยายเรื่องนี้สามารถเขียนเสร็จสิ้นภายในปีอันเป็นศุภมงคลยิ่งของคนไทยทั้งประเทศเช่นกัน
‘ จันทราอุษาคเนย์ ‘ ได้ทำหน้าที่เล่าขานตำนานจากลุ่มแม่น้ำโขงและลำน้ำมูลอันน่าพิศวง เพื่อสรางเรื่องราวมอบความบันทึกให้แก่ท่านผู้อ่านได้เพลิดเพลิน รื่นรมย์ ไปกับบทบาทของตัวละคร โลดแล่นตามเรื่องราวต่างๆให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่บนแผ่นดินที่เรายืนอยู่นี้นับถอยหลังไปหลายพันปี
ดินแดนของเราที่เคยเป็น และยังคงเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมผสมผสานระหว่างความเชื่อและเผ่าพันธ์อันหลากหลายได้อย่างกลมกลืน ความงดงาม ขรึมหลัง บนแผ่นดินผืนนั้น น่าภาคภูมิใจและน่าหลวงใหลไม่แพ้อารยธรรมโบราณอื่นใด
และนิทานบนโต๊ะกินข้าวเรื่องนั้น ได้จบลงแล้ว ณ บรรทัดนี้
วรรณวรรธน์
๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙
๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙
กรุงเทพมหานคร อดีตท้องทะเล แห่งศรีทวารวดี
นี่เป็นอีกเหตุผลที่ชอบอ่านหนังสือของคุณวรรณวรรธน์ และสามารถรองานเขียนแต่ละเล่มได้โดยคิดเสมอว่า อ่านแล้วต้องไม่ผิดหวัง เพื่อสนับสนุนความคิดของตัวเองที่ว่า ในนิยายที่ใครคิดแค่อ่านเพื่อประโลมจิตใจ ไม่มีสาระ ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณคิดผิด??
พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใด ทรงพระนามว่า จิตรเสน ผู้เป็นพระโอรสของพระเจ้าศรีวีระวรมัน เป็นพระราชนัดดาของ
พระเจ้าศรีสารวเคามะ
แม้โดยศักดิ์จะเป็นพระอนุชา แต่ก็เป็นพระเชษฐาของพระเจ้าศรีภววรมัน
ผู้มีพระนามปรากฎในด้านคุณธรรมแต่ทรงพระเยาว์ พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นได้รับพระนามอันเกิดจากการอภิเษกว่า
‘ พระเจ้าศรีมเหนทรวมัน’
หลังจากชนะประเทศนี้ทั้งหมดแล้วได้สร้างพระศิวลึงค์ อันเป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งชัยชนะของพระองค์ฯ
จารึกวัดสุปัฎนาราม
จังหวัดอุบราชธานี
ช่วงสงกรานต์หยุดยาว 13 วัน ที่วางแผนไว้ว่าจะเดินทาง ผิดแผนไปหมดเลยนั่งๆนอนๆอยู่ห้อง เบื่อเลยรื้อของทำความสะอาดบ้าน แล้วก็หยิบรูปเก่าๆ มาดูแล้วก็เห็นรูปถ่ายตอนไปไหว้พระที่วัดสุปัฎฯ (ภาพเสมา หรือเปล่าไม่แน่ใจ) เลยหยิบหนังสือเรื่อง ‘จันทราอุษาคเนย์’ มาอ่านซ้ำ พร้อมดูทีวีช่อง Thai PBS ไปด้วย ปรากฏ รายการ Spirit of Asia เสนอตอนที่เกี่ยวกับอุษาคเนย์พอดี ได้เห็นปราสาทวัดภูที่ประเทศลาว และล่าสุดตลอด อัญมณีแห่งอุษาคเนย์….เลยยิ่งอ่านสนุกและได้ความรู้ยิ่งขึ้น

อ่านแล้วคิดถึงอุบลฯบ้านเฮาเน๊าะ
ตอบลบ