พันแสนเรื่อง




  • เพราะติดนิสัยการอ่านหนังสือมาตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลาย เริ่มต้นจากการอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องที่อ่านแล้วประทับใจก็ไม่น่าจะต่างจากคนอื่นๆเท่าไหร่ นั่นก็คือคำสาปฟาโรห์ (ซึ่งอ่านมาเป็นชาติแล้วก็ไม่จบซะที ตอนนี้เลยเลิกอ่านแล้ว) แต่เรื่องที่ติดเอามากๆกลับเป็นเรื่องเทพบุตรผู้วิเศษ ไปซะนี่

  • พออ่านการ์ตูนหมดก็พัฒนามาเป็นนิยาย ลองอ่านทั้งนิยายไทยและนิยายแปล แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ชอบนิยายไทยเป็นที่สุด อาจจะเพราะว่าเราเป็นคนไทย ภาษาที่ใช้ เนื้อหาที่บรรยายหรือพรรณนา เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทย ถึงแม้จะชอบอ่านหนังสือนิยายเป็นชีวิตจิตใจ แต่การจะซื้อหนังสือแต่ละเล่มเก็บเป็นสมบัติส่วนตัวนั้น เกิดจากความประทับใจเนื้อหา แนวคิด และหลายเล่มมีปรัชญาและข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ได้ นี่เป็นอีกหลายๆเหตุผลที่ทำให้ยอมควักกระเป๋าจ่ายค่าหนังสือ แต่จะว่าไปหนังสือทุกเล่ม ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับอะไรก็มีประโยชน์ทั้งนั้นไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับว่าเรามองมุมไหน

  • ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็น "หนอนหนังสือ" เพราะไม่ได้อ่านหนังสือได้ทุกๆแนว ทุกๆเล่ม แต่ก็อ่านหนังสือได้หลายๆแนว แต่แนวที่ชอบจะเป็น จินตนิยาย ลึกลับ แฟนตาซี สืบสวน โดยเฉพาะที่อิงตำนาน เรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ มีสาระแฝงข้อคิด อิงการเมืองการปกครองนิดๆ ถ้าเป็นแนวนี้นอกจากอ่านแล้วก็ ต้องซื้อเก็บ เพราะสามารถอ่านได้หลายๆรอบ โดยไม่เบื่อเลยทีเดียว


พันแสนเรื่อง....นิยายเล่มโปรด

รอมแพง 
ชอบสำนวนงานเขียนของนักเขียนคนนี้เอามากๆ เรื่องแรกที่อ่านและประทับใจจนต้องซื้อมาอีกหลายๆเล่ม ก็คือ "บุพเพสันนิวาส" ที่นางเอกทะลุมิติไปสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งยังไม่เคยได้อ่านหนังสือแนวนี้ที่นางเอกทะลุไปไกลขนาดนี้มาก่อน ภาษาที่ใช้ทำให้สนุกและเห็นภาพ สามารถอมยิ้มถึงนั่งขำได้ทีเดียว พระ-นางก็มีความเป็นคน ที่มีชั่วดี มีสวยขี้เหร่ มีขาวมีดำ อ่านแล้วก็ชอบมากๆ เลยคาดว่าจะอ่านอีกหลายเล่ม แต่เล่มที่จะซื้อต้องดูก่อน














คุณฌามิวอาห์(ชามี) 
  เป็นนักเขียนรุ่นใหม่ (หรือเปล่าไม่ค่อยแน่ใจ) แต่เท่าที่อ่านประวัติคงอายุไม่มากเท่าไหร่ (น้อยกว่าเราหลายปีทีเดียว)  นี่ก็ประทับใจอีกเช่นกัน  หนังสือทุกเล่มของชามีไม่ได้โศกแต่คำพูดในหนังสือ อ่านแล้วทำให้น้ำตาซึมถึงขั้นน้ำตาร่วงได้ทีเดียว และที่สำคัญจินตนาการของเธอสุดยอดมาก จึงเป็นผลให้กวาดซื้อหนังสือทุกเล่มของชามีมาไว้ในครอบครอง หลายๆเล่มเป็นมือสอง เพราะเพิ่งจะเริ่มอ่านหนังสือของนักเขียนรุ่นใหม่ๆ พอติดใจก็เลยหาเล่มเก่าๆของเธอมาอ่าน ตอนนี้ยังอ่านไม่หมดเลย ค่อยๆไปทีละนิด เพราะถ้าอ่านจบเร็วนั่นหมายความว่า ต้องควักเงินในกระเป๋าไปหาซื้อเล่มใหม่ๆ มาเพิ่มในกองหนังสือทันที











            • คุณวรรณวรรธน์ เริ่มอ่านหนังสือของคุณวรรณวรรธน์ เมื่อเร็วๆนี้เอง ประทับใจกับข้อคิดต่างๆที่แทรกในหนังสือแทบทุกเล่มของนักเขียนท่านนี้ ถึงขั้นจดออกมาเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต แล้วก็ไว้สอนคนอื่นๆด้วย ที่สำคัญคือข้อเท็จจริงที่แทรกในหนังสือ คุณวรรณวรรธน์สามารถจินตนาการและผูกโยงการสร้างเรื่องราวได้ดีมากๆอ่านแล้วประทับใจเหลือเกินแถมด้วยความรู้ที่ไม่เคยรู้ โดยเฉพาะเรื่อง "จันทราอุษาคเนย์" เล่มโปรดสุดเห็นจะเป็น "อัสวัด ราชันย์แห่งความมืด"




  • ลักษณวดี โรสลาเรน ทมยันตี  เป็นนักเขียนในดวงใจ เริ่มอ่านหนังสือนิยายก็เริ่มด้วยของนักเขียนท่านนี้ อ่านทุกนามปากกา ตั้งแต่สมัยวัยรุ่นอ่านหนังสือของคุณลักษณวดีทุกเรื่อง ประทับใจทุกเรื่อง และอยากจะซื้อเก็บไว้ทุกเรื่อง แต่ต้องประหยัดงบในกระเป๋า  เรื่องที่ประทับใจมากมีหลายเรื่องมเลย เช่น มงกุฎที่ไร้บัลลังก์ เลือดขัตติยา ดั่งดวงหฤทัย โสมส่องแสง รอยอินทร์ และที่สุดในหัวใจคือ "ตราบแผ่นดินกลบหน้า" ชอบมากๆ อ่านได้หลายๆครั้ง ประทับใจกับความรัก ของนายน้อยนาเคนทร์ กับนายหญิงแห่งไร่ชาสองพี่น้อง ความรักที่ไม่หวือหวา ไม่หวาน แต่ก็สร้างความประทับใจเสียเหลือเกิน (ไม่รู้จะมีช่องไหนนำมาทำเป็นละครทีวีบ้างหรือเปล่า )




  • คุณลัลล์ลลิล ลองอ่านของสำนักพิมพ์นี้ดูบ้าง ปกติไม่เคยซื้อของสำนักพิมพ์นี้เลย เคยอ่านงานเขียนของนักเขียนสำนักพิมพ์นี้บ้างแต่ไม่มากนัก สำหรับลัลล์ลลิล ประทับใจนามปากกามากกว่าเลยลองหยิบงานเขียนมาลองอ่านดู ซึ่งเป็นแนวที่ชอบเป็นพิเศษอยู่แล้ว อ่านประวัตินักเขียนคนนี้อายุน้อยนิด ยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย อ่านผลงานครั้งแรกก็ประทับใจ แต่ยังไม่ได้อ่านแนวอื่นๆของเธอที่ใช้นามปากกาธุวตารา






  • คุณโสภาค สุวรรณ สุดยอดนักเขียนคนแรกที่หยิบงานเขียนขึ้นมาอ่าน ชอบที่สุดคือความลับบนแหลมไซไน อาจต่างจากคนอื่นๆที่ส่วนใหญ่ชอบ"ฟ้าจรดทราย" มากกว่า อ่านผลงานของท่านทุกเล่มแล้ว แต่สมัยก่อนโน้นเมื่อนานมาแล้ว ประทับใจทุกเรื่องเช่นเดียวกันเคยมีหนังสือท่านหลายๆเล่ม แต่ซื้อเก็บไว้นานแล้ว มอดแมงกัดกลิ่น แม่ก็เลยเก็บทิ้งหมดเลย สมัยก่อนนอกจากหนังสือดันชอบเก็บสะสมดอกหญ้า พอเอามากองรวมกันเลยเป็นที่อยู่ของแขกที่ไม่ได้รับเชิญไปซะงั้น สุดท้ายก็ต้องตัดใจ (น้ำท่วมบ่อย อยู่กับความชื้นนานๆก็แย่)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น