วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ภูอิงฟ้าผาแต้มดาว ตอนที่ 4




ภาพหญิงสาวที่กำลังทำท่าก้มๆเงยๆอยู่ใต้ต้นไม้ทำให้ภูผาต้องหยุดมอง ท่าทางลังเลไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดีกับสิ่งที่ประคองอยู่ในมือนั่นอีก ชั่วแว่บเดียวเท่านั้นเขาก็เห็นหญิงสาวนำสิ่งที่อยู่ในมือใส่ลงในกระเป๋าเสื้ออย่างระมัดระวังก่อนจะตัดสินใจปีนขึ้นไปบนต้นไม้ ชายหนุ่มเกือบจะตะโกนออกไปห้ามตอนที่เห็นหญิงสาวทำท่ายั่งความสูงของต้นไม้ก่อนจะปีนขึ้นไปแต่เขาก็ไม่ทำ ถึงตอนนี้เขาทำได้ก็เพียงยืนกอดอกสงบนิ่งมองท่าทางเกๆกังๆของคนที่กำลังใช้ความพยายามในการปีนไปตามกิ่งไม้ที่ลื่นเป็นพิเศษเพราะฝนที่เพิ่งจะหยุดตกไปหมาดๆ รอยกังวลปรากฎบนใบหน้ารู้สึกอดเป็นห่วงไม่ได้ เขาตัดสินใจเดินไปที่ต้นไม้และพอดีกับอินแปงที่เดินแกมวิ่งแถมด้วยเสียงตะโกนอย่างตกใจกับภาพเจ้าตัวเห็นต้นไม้

ต๊าย ครูดาวครับ ครูดาว  เสียงร้องต๊ายสูงปรี๊ดเกินระดับปรกติของผู้ชาย ทำให้ภูผาชะงัก คิดว่าคนบนตนไม้ก็คงไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่นัก ถ้าสมาธิไม่ดีก็คงพลัดตกลงมาเพราะความตกใจกับเสียงนั่นก็เป็นได้

อะไรอินแปง อย่าเสียงดังไปสิ ดาราเสียสมาธิหมด หญิงสาวเอ็ดคนที่เสียงดังอยู่ข้างล่าง

ขึ้นไปทำอะไรครับนั่น ฝนเพิ่งจะหยุดตก กิ่งไม้มันลื่นนะครับ ลงมาครับลงมา อินแปงยังเสียงดังเรียกให้คนข้างบนลงมาจากต้นไม้

ลูกนกจ้ะลูกนก มันคงพลัดตกลงมาจากรัง ตัวปีกโชกเลย น่าสงสาร ดารากำลังจะเอาขึ้นไปคืนแม่มันน่ะ อีกนิดเดียวก็ถึงรังมันแล้ว  ที่แท้ก็ลูกนกที่ภูผาเพิ่งจะนึกออกว่าเห็นมันเพิ่งจะฟักเป็นตัวเมื่อสัก 4-5วันก่อนหน้านั้นนั่นเอง

โอ๊ย ลงมาเถอะครับ เดี๋ยวพลัดตกลงมา เจ็บนะครับ  คนข้างล่างอดเป็นห่วงไม่ได้ พูดขอร้องแกมขู่หน่อยๆ

งั้นก็คงไม่ต้องห่วง เพราะเดี๋ยวตก ก็แสดงว่ายังไม่ตก หญิงสาวล้อเล่นอย่างอารมณ์ดี

โธ่ ครูครับยังจะล้อเล่นอีก ลงมาเถอะครับ

โธ่ อินแปง ดาราปีนจะถึงรังมันอยู่แล้ว อีกนิดเดียวเอง คนบนต้นไม้เลียนคำพูดของอินแปง ในขณะที่เจ้าตัวยังคงพยายามปีนต่อไปโดยไม่สนใจเสียงออดอ้อน

เชื่ออินแปงเถอะคร๊าบ ป้าเขาเตรียมข้าวเสร็จแล้ว ให้อินแปงมาตาม อินแปงถอยหลังห่างจากต้นไม้นิดหน่อย เพราะตอนนี้เริ่มมองคนบนต้นไม้ไม่ถนัดตาเสียแล้ว

เอ๊ะ อินแปง ดาราบอกว่าอีกนี๊ดเดียว แค่กิ่งเดียวก็ถึงรังมันแล้ว โอ๊ะ น้ำเสียงติดรำคาญนิดๆ จากเสียงตอนท้ายบอกให้คนข้างล่างรู้ว่าพลาดเพราะสมาธิเสียไปแล้ว เลยเป็นผลให้เสียงอินแปงเบาลงมาหน่อย

โอ๊ะ ครูครับ ระวังเน้อ  กิ่งไม้มันลื่นเน้อครับ ในเมื่อห้ามไม่ได้แล้ว อินแปงก็เลยต้องเตือนด้วยความเป็นห่วง คราวนี้ตกใจจนหลุดภาษาถิ่น

รู้แล้วจ้า รู้แล้ว ดาราซะอย่าง หายห่วง นี่ไงถึงแล้ว หญิงสาวรับรองตัวเองกับอินแปง ในขณะที่มืออีกข้างเหนี่ยวกิ่งต้นไม้ไว้ และอีกข้างพยายามล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อนำลูกนกไปไว้บนรังซึ่งอยู่สุดมือเอื้อมพอดี เห็นไหม แค่นี้ก็เรียบร้อย อินแป... ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบเสียง เพี๊ยะ  ก็ดังขึ้น

ว๊าย !!! กรี๊ด ตามมาด้วยเสียงร้องของคนที่กำลังจะร่วงจากต้นไม้

โอ๊ะ ครูครับ...ครู โอ๊ยตายแล้ว ตาย ตาย ตาย อินแปงร้องด้วยความตกใจ มือไม้แข้งขา ผิดที่ผิดทาง ทำอะไรก็ไม่ถูก ตั้งท่าตั้งทางเตรียมรับคนที่กำลังร่วงลงมา แต่คงจะผิดตำแหน่งไปสักหน่อย

ว๊าย อินแปงงง ครูหลับตาปี๋แต่เรียกชื่ออินแปงดังลั่นเจ้าตัวก็คงตกใจไม่แพ้กัน

ภูผาที่เห็นเหตุการณ์ตลอด ความตกใจทำให้เขากระโจนจากด้านหลังอินแปงทันรับร่างคนที่กำลังร่วงมาอยู่ในอ้อมแขนพอดิบพอดี แต่เพราะหญ้าที่แฉะทำให้เสียการทรงตัวทั้งคนรับและคนที่ร่วงเลยล้มคลุกโคลนอยู่ใต้ต้นไม้นั่นเอง

โอ๊ย อินแปงจ๋าอินแปง เจ็บไหม เจ็บไหม ดาราขอโทษ ในขณะที่เจ้าตัวก็พยายามยันตัวลุกนั่งตัวตรง แล้วหันไปคว้าข้อไม้ข้อมือคนที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นหญ้าแฉะๆนั่น ปากก็พูดขอโทษขอโพยไปด้วย

อินแปงเป็นยังไงบ....อะ อ้าว เสียงหยุดแค่นั้นเมื่อรู้ว่าไม่ใช่คนที่คิดว่าเป็น ชายหนุ่มที่นอนคลุกโคลนอยู่ในท่าชันเข่าทั้งสองข้าง ข้อศอกยันพื้นท่าทางเตรียมจะลุกก็ชะงักอยู่ในท่านั้นเช่นกัน

โลกหยุดหมุนไปชั่วขณะเมื่อสายตาทั้งคู่มาสบกัน แสงวิบวับในดวงตาชายหนุ่มทำให้องค์ดารารู้สึกหน้าตารวมถึงใบหูร้อนขึ้นมานิดๆ ตาก็พร่ามัวจนมองไม่เห็นว่าอินแปงยืนอยู่ตรงไหน ทั้งที่ยังได้ยินเสียงร้องโวยวายแว่วๆเข้ามาในหู ความรู้สึกแบบนี้คืออะไร ความรู้สึกวูบวาบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต แล้วผู้ชายคนนี้เล่าเป็นใคร

 นายภูครับ นายภู  เป็นยังไง เจ็บตรงไหนครับนี่ โชคดีจริงๆที่นายภูรับครูไว้ทัน ไม่งั้นอินแปงต้องแย่แน่ๆ มือไม้อินแปงที่เข้ามาจับเนื้อจับตัวหาร่องรอยบาดเจ็บเรียกให้สติสตังชายหนุ่มกลับคืน

ไม่เป็นไรอินแปง ไม่แย่ขนาดนั้นหรอกน่า ฉันไม่ได้มีแผลตรงไหนซะหน่อย  ครูอินแปงน่ะตัวเบานิดเดียว ภูผาตอบคำถามอินแปงแต่สายตายังคงจ้องหน้าหญิงสาว ที่ตอนนี้นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ตรงหน้า

ความรู้สึกแปลกๆหวานๆที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ยังติดในความรู้สึก หากปากก็ยังพูดต่อไป อีกอย่างพื้นหญ้านี้ก็นุ่มดี ฝนเพิ่งหยุดตก ดินก็แฉะเลยไม่เจ็บเท่าไหร่ ว่าแต่ครูเถอะ เป็นยังไงบ้าง ตกใจไหม ภูผาเลยเรียกคนตรงหน้าว่าครูตามอินแปง


เออ ไม่ค่ะ นายภู ดาราไม่เจ็บ องค์ดาราตอบตะกุกตะกัก พยายามจะดึงมือออกจากการเกาะกุม ถึงตอนนี้ภูผาถึงรู้ตัวเขากุมมือเรียวเล็กนั่นอยู่ แต่เขากลับทำหน้าตาย ไม่รู้ไม่ชี้ไม่ยอมปล่อยซะอย่างนั้น

ภูผาครับ เรียกภู หรือ ผา หรือ ภูผา แล้วแต่สะดวกครับ คนหน้าตายเลยถือโอกาสแนะนำตัวเอง

  เอ่อ  ดาราค่ะ  ก้มพักตร์หงุดแนะนำตัวเอง ที่ตั้งใจจะพูดก็ไม่ได้พูด

ครับ ครูเนื้อตัวมอมแมมหมดแล้ว มาครับ ลุกขึ้น เพราะคนตรงหน้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเก็บปากเก็บคำ ชายหนุ่มเลยเฉไฉลุกขึ้นยืนมืออีกข้างก็ฉุดให้องค์ดาราลุกขึ้นตาม

ขะ ขอบคุณค่ะ จนได้สิน่า ทำไมถึงพูดได้แค่นี้นะ

โอ๊ย ดูสินายภู ครูดาว สกปรกมอมแมม เป็นลูกแมวแบบนี้ รีบๆไปล้างเนื้อล้างตัวเถอะครับ ป้าอินตาเตรียมกับข้าวเสร็จแล้ว อินแปงต้องถูกป้าบ่นยาวแน่ๆเลย ไปเถอะครับ เสียงอินแปงนั่นเองที่เรียกให้สติภูผากลับมาเหมือนเดิม ยอมปล่อยมือเรียวเล็กให้เป็นอิสระ ทั้งที่ใจยังรู้สึกเสียดายกับความรู้สึกวูบวาบที่เกิดขึ้น

  เห็นไหมครู อินแปงบอกแล้วว่า เดี๋ยวตก เดี๋ยวตก อินแปงอดบ่นไม่ได้

ก็เพราะอินแปงบอกว่าเดี๋ยวตก เดี๋ยวตกไง มันเก๊าะเลยตกจริงๆ ครูยังทำหน้าทำเสียงล้อเลียนอินแปงซะอีก

อ้าว ไม่ให้พูดเดี๋ยวตก เดี๋ยวตก แล้วจะพูดว่าไงล่ะครับครู

เก๊าะ พูดว่าไม่ตก ไม่ตก สิ ที่นี่ดาราก็ไม่ตก เพราะไม่ต้องมีคำว่าเดี๋ยว พอพูดว่า เดี๋ยว มันก็ต้องมีอย่างอื่นตามมา เหตุผลของเด็กจอมซนทำให้คำแปงพูดไม่ออก

อ้าว เป็นงั้นไป อินแปงยกมือเกาหัวแกก ภูผาเองถึงกับอมยิ้มกับเหตุผลของหญิงสาว อยากจะขำกับท่าทางของอินแปงแต่ก็ขำไม่ออก ได้แต่หันไปปลอบอินแปง

เอาน่าอินแปง พาครูไปล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ถ้าไม่อยากเจอป้าบ่นก็ไม่ต้องเดินไปให้เห็น เดินอ้อมๆไปหลังเรือนโน้น ภูผาแนะนำ แล้วหันมาทางองค์ดารา แล้วเจอกันที่เรือนอิงฟ้านะครับครู นอกจากคำพูดแล้วภูผาส่งสายตาหวานๆมาทางครู

ค่ะ ค่ะ ไปอินแปง จะให้ดาราไปล้างตัวที่ไหนจ้ะ โอ๊ะโอ๋ อย่ากลัวไปเลยนะ ดาราไม่ให้ป้าอินตาดุอินแปงหรอก โธ่ อย่างอนน่านะ เสียงแจ้วๆของหญิงสาวภูผาให้นึกเอ็นดูเป็นยิ่งหนัก นี่ท่าจะมีความแก่นซ่อนอยู่ในความมีน้ำใจนั่น เจ้าลูกนกตัวนั้นช่างโชคดีเหลือเกินที่มันพลัดตกจากรัง อีกทีเขากลับคิดว่าตนเองก็เป็นคนโชคดีอีกคนที่บังเอิญกลับจากวัดในช่วงเวลานี้พอดี

อินแปงพาครูเดินเลี่ยงๆไปทางด้านหลังเรือนชมดาว แต่ก็เจอกับป้าอินตาที่โผล่ออกมาพอดี พอเห็นสภาพครูเท่านั้น

ตายแล้ว ครูขา ทำไมมอมแบบนี้ล่ะค่ะ อินแปง อินแปง แกพาครูไปตกบ่อโคลนที่ไหนมา ฉันให้ไปตามครูมากินข้าวนะ แล้วทำไมสภาพถึงได้เป็นแบบนี้ น้ำเสียงและสีหน้าสีตาป้าอินตาเป็นดังอินแปงบอกองค์ดาราไว้ก่อนหน้านั่นจริงๆ ก่อนที่ป้าอินตาจะร่ายยาวไปกว่านี้ องค์อาภาตรงเข้าไปกอดเอวป้าอินตา

ป้าจ้าป้า ดาราหิวข้าวแล้วล่ะ แต่เดี๋ยวขออนุญาตไปล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า เดี๋ยวดารามานะจ๊ะ ตั้งโต๊ะเลยนา  ยังไม่ทันจะพูดจบ หญิงสาวก็หันหลังก้าวขึ้นเรือนตรงไปห้องพักของตนเองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับอินแปงก็กระโจนแผ่วหายไปโดยไม่รอฟังคำบ่นของป้าอีกต่อไป

ป้าอินตาได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอ็นดู ครูดาราเป็นหนึ่งในคณะที่เดินทางมาภูแสนผาและเพิ่งจะมาถึงผาแต้มดาวเมื่อช่วงบ่ายแก่ๆนี่เอง หลังจากที่เก็บสัมภาระที่ห้องพักเรียบร้อยแล้วครูก็ยังอุตส่าห์มาทักทายป้าอินตาและสาวๆที่อยู่ในโรงครัว หยิบโน่นจับนี่ช่วยคนในครัวทั้งที่เพิ่งจะเดินทางไกลมาแท้ๆ

 ความไม่ถือเนื้อถือตัวอีกทั้งความช่างพูดช่างซักช่างถาม บวกกับใบหน้าที่แต้มยิ้มตลอดเวลา ทำให้ป้าอินตารู้สึกถูกชะตาขึ้นมาทันทีพอๆกับอินแปงที่เอ่ยปากชมคนที่ติดปากเรียกครูดาวอยู่ไม่ขาดปากถึงช่วงเวลาที่เดินทางมาด้วยกัน

  ครูเป็นผู้หญิงนะป้าแต่อดทนยิ่งกว่าผู้ชาย อย่างที่รู้ๆกัน คนภูแสนผาจะออกจากเขตปกครองเป็นเรื่องง่ายดาย แต่คนภายนอกที่คิดจะย่างกรายเข้ามานั้นยากยิ่งนัก แต่ครูกลับเป็นผู้หญิงคนเดียวในคณะที่มีผู้ชายสิบกว่าคนที่เดินทางมาผาแต้มดาวซึ่งเป็นหนึ่งในห้าเขตย่อยของเขตปกครองตนเองภูแสนผา ผาแต้มดาวถือเป็นเขตที่มีเส้นทางที่ยากลำบากแก่นักเดินทาง โดยเฉพาะนักเดินทางที่เป็นผู้หญิง

 ฟังๆจากที่อินแปงเล่าระหว่างที่ช่วยสาวๆเตรียมอาหารและจากที่ได้พูดคุยกับหญิงสาวถึงแม้จะเพียงไม่นานนัก ความรักความศรัทธาเริ่มเกิดขึ้นในใจของป้าอินตาอย่างเงียบๆ เผลอๆป้าก็พาลไปนึกถึงเจ้าภูฟ้า ป่านนี้ยังไม่มีนายหญิงอยู่ข้างกาย ดีหละ ป้าอินตาหมายมาดไว้ในใจ แต่ความคิดหยุดแค่นั้น เพราะสะดุ้งตกใจอยู่ดีๆก็ถูกกอดเอวทางด้านหลัง

ป้าอินตาจ๋า เตรียมอาหารเสร็จหรือยังครับนี่ ผมหิวแล้วคร๊าบ เสียงออดอ้อนของภูผานั่นเอง

นี่ก็อีกคน เฮ้อ! พอรู้ว่าเป็นใคร เสียงถอนหายใจก็ตามมาเฮือกใหญ่

อ้าวป้า เป็นอะไรครับนี่ เห็นหน้าผมก็ร้อง เฮ้อ! ระวังแก่ไวเน้อ เดี๋ยวจะหาว่านายภูไม่เตือน ภูผาพูดพลางแกล้งกอดป้าอินตาแน่นเข้าไปอีก

นี่แน่ ไม่ต้องมาอ้อนป้าเลยนายภู ป้าอินแกล้งตีเบาๆที่แขนภูผา และพยายามแกะไม้แกะมือคนขี้อ้อนออก

ไม่อ้อนป้าแล้วจะให้ผมไปอ้อนใครที่ไหนล่ะครับ ที่นี่ผาแต้มดาวนะ ไม่ใช่เชียงใหม่ซะหน่อย ภูจะได้มีสาวน้อย สาวญ่ายย ให้อ้อนได้ทุกวัน ภูผาเน้นคำว่า ใหญ่ หนักและยาวเป็นพิเศษ

ก็เลยมาอ้อนคนแก่แทนว่างั้นเถอะ

ก็งั้นซิคร๊าบ แหม ก็มีคนแก่ ที่แสนจะน่ารักให้อ้อนอยู่คนเดียวนี่ ภูผาพูดพลางหอมแก้มป้าอินตาฟอดใหญ่ ก่อนจะปล่อยป้าให้เป็นอิสระ แล้วตัวเองก็หันซ้ายหันขวาอยู่ตรงนั้นเอง

ไม่ต้องมาปากหวานเลยค่า เอ๊ะ ว่าแต่ทำไมถึงกลับมาเร็วล่ะคะ ป้านึกว่าจะกลับค่ำๆซะอีก

กลับเร็วก็ว่า กลับช้าก็บ่น เอ หรือหาสาวสักคนไว้ไปค้างอ้างแรมด้วย จะได้ไม่ถูกว่าถูกบ่น ภูผาไม่ตอบคำถามแต่เฉไฉหน้าตายตอบเรื่องที่ทำให้ป้าเคืองขึ้นมาแทน

โอ๊ย อย่าคิดทำจริงขึ้นมาเชียวนะคะ ป้าไม่ยอมจริงๆด้วย ป้าอินตาหันมาทำตาเขียวปั๊ดใส่คนหน้าตาย

ขู่แบบนี้แล้วใครจะกล้าล่ะครับ ก็คุยกับพ่อปู่นาคาเสร็จเร็ว ภูเลยรีบกลับ ยามที่นายภูแทนตัวเองด้วยชื่อต้นแบบนี้ นี่แหละนายภูคนที่แสนจะอ่อนโยนในสายตาป้าอินตา

รีบกลับมาก็ดีแล้วค่า คณะที่มาจากเมืองหลวงน่ะค่ะ มาถึงแล้ว นายภูจะได้ทานข้าวกับเขา ให้ป้าต้อนรับคนเดียวก็กระไรอยู่ ดีแล้วค่ะดีแล้ว ป้าอินตาพูดอย่างโล่งใจ

  นั่นสิ ผมถึงได้มาเจออะไรดีๆ ที่สวนหลังเรือน โชคดีจังที่ตัดสินใจกลับเร็ว ประโยคคล้ายๆจะพูดกับตัวเอง

อะไรคะ ที่ว่าดีๆน่ะ ป้าอินตาสงสัย แต่ก็ทำท่านึกอะไรขึ้นมาได้ เออ แต่ป้าก็มีอะไรดีๆ เหมือนกันนะ แต่ไม่ใช่ของนายภูหรอก สำหรับเจ้าภูฟ้าต่างหาก ป้ารีบบอกก่อนที่ภูผาจะเข้าใจผิดว่า อะไรที่ว่า ดีๆ นั่นเป็นสิ่งเดียวกัน

อะไร ถ้าเกี่ยวกับภูฟ้า ก็ต้องเกี่ยวกับผู้หญิง ฮ่า!!!

ร้องฮ่าเนี่ย รู้เหรอค่า ว่าผู้หญิงคนไหน ป้าอินตาทำเสียงประชดประชันหน่อยๆ

ไม่รู้ล่ะ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในเรือนนี้ ตอนนี้ล่ะก็ ของภูผา ไม่ใช่ของ ภูฟ้า แน่ๆ ชายหนุ่มบอกและย้ำ จนป้าอินตาแน่ใจเลยว่า  ดีๆ ที่ว่านั่นคืออะไรและเป็นใคร

อะ อ้าว ป้าอินตาหลุดคำว่า อ้าว ออกมาได้แค่คำเดียว ก็ได้ยินน้ำเสียงจริงจังจากภูผาราวกับจะย้ำและทำความเข้าใจกับป้าให้ชัดเจน

ไม่ต้องอ้าวเลย เจ้า ของป้าน่ะมันอยู่ที่ภูอิงฟ้า แต่ที่ผาแต้มดาว มีแต่ นาย ฉะนั้นอะไรที่ว่า ดีๆ ก็ต้องไม่มีของ เจ้า มีแต่ของ นาย คนนี้เท่านั้น นายภูคนนี้ เข้าใจไหมจ๊ะป้าจ๋า ภูผาแกล้งขู่คนที่เอาแต่ทำหน้าเหรอหราที่ตอนนี้ส่งสายตาค้อนวงใหญ่มาให้เขา สุดท้ายเขาก็กลับเป็นภูผาคนขี้อ้อนของป้าคนเดิมอยู่ดี

โอ๊ย ไม่เอาหละนายภู อย่ามัวแต่แกล้งป้า ไปที่ลานชมดาวเถอะค่ะ ป้าให้เขาตั้งโต๊ะที่โน่น อะไรที่ว่า ดีๆ จะเป็นของเจ้า หรือเป็นของนาย ป้าก็ดีใจทั้งนั่นแหละคะ ป้าอินตาเน้น เจ้า กับ นาย หนักๆ ทำท่าโบกไม้โบกมือไล่ให้คนขี้ตู่ไปให้ไกลๆ

คร๊าบ คร๊าบ ไปแล้วคร๊าบ แต่ป้าจ๋า จำไว้นะ อะไรดีๆ นั่น เป็นของ นายภู คนนี้ อย่าลืมซะล่ะ ภูผาหันมาทำตาขี้เล่นใส่ป้าอินตาอีกคำรบก่อนเดินไปที่ลานชมดาว

ค่า ป้ารู้แล้วค่า ไปเถอะไป๊ แขกเขากำลังรอเจ้าบ้านอยู่แน่ะ ไปเร็วๆค่า ป้าอินตาทำยกมือไล่ให้ไปไวๆ แถมส่งสายตาเอ็นดูให้กับคนขี้อ้อน ท่าทางส่ายหน้าน้อยๆนั่นก็ไม่ได้แสดงว่ารำคาญอะไรหนักหนา

ก็อย่างที่ป้าว่า อะไรดีๆ ไม่ว่าจะเป็นของเจ้าหรือของนาย ป้าก็ยินดีทั้งนั้น เพราะคิดว่ายังไงเสียอะไรดีๆที่ว่า ก็คงไม่สามารถดึงให้นายภูผาพ้นจากผาแต้มดาวไปได้หรอก ป้าเชื่อมั่นอย่างนั้น อย่างนายภูผาไปได้ไกลสุดก็คงแค่ภูอิงฟ้าเท่านั้นแหละ นี่คิดจะกลับเชียงใหม่บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยิ่งมีอะไรดีๆ อยู่ที่นี่ ท่าทางคงจะปักหลักที่ผาแต้มดาวซะก็ไม่รู้ แต่ก็ดีเหมือนกัน ป้าจะได้มีนายน้อยๆไว้แก้เหงาสักคนสองคน ป้าอินตาคิดได้อย่างนั้นก็สบายใจ เดินเข้าไปดูความเรียบร้อยในโรงครัว บอกสาวๆให้เตรียมยกสำรับไปที่ลานชมดาวทันที


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น