วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

พันแสนคำประทับใจ..ในอัสวัดฯ






บทประทับใจ 
ให้ข้อคิด.....จากนิยายเล่มโปรด

 เดี๋ยวก่อน....
เจ้าชายซาเลมร้องห้าม มันก็ไม่เลวนะ...คุณนักข่าวมีประสบการณ์เกี่ยวกับงานข่าว คุณคิดว่ายังไงละ
ฬิดานึกสนุกกับแผนการชั่วแล่นของตัวเอง และยิ่งได้ใจเมื่อเห็นท่าจะมีคนยอมรับ
ให้เขาคิดว่าทำสำเร็จ เขาก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากผลงานของเขา มันเป็นเรื่องธรรมชาติของคนที่ลงมือก่อเหตุ ส่วนมากมักจะรอดูผลระยะหนึ่งก่อน แล้วจากนั้นจะต้องหาทางสรุปผลให้ได้แล้วจะดำเนินตามแผนขั้นต่อไป เมื่อมีการดำเนินการแผนต่อไปคราวนี้ ก็คงจะรู้ได้ไม่ยาก...คนที่รับผลประโยชน์สูงสุดในการที่จะหมดสิ้นพระองค์ คนนั้นแหละที่เป็นคนลงมือทำ
มันจะง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ... พันตรีอาเหม็ดร้องถาม
ฟังเหมือนเกมเด็กเล่น
แล้วเกมการเมืองมันจะซับซ้อนแค่ไหนเชียว
พันตรีอาเหม็ดฟังภาษาอาหรับของเธอ ผู้หญิงเสียงต่ำเวลาพูดแสดงถึงอำนาจสะกดผู้ฟังได้อย่างดี
มันก็แค่มีเรื่องอำนาจมาเดิมพันชีวิตคน ก็เท่านั้นเอง มันมีจุดเริ่มจากเกมเด็กๆที่เล่นด้วยสัญชาตญาณ ก็เพราะ
สัญชาตญาณดิบของมนุษย์เกี่ยวกับ กิเลส อำนาจ ความโลภ ไม่ใช่หรือที่เป็นที่มาของเกมการเมือง
ความมั่นใจในความคิดอ่านของตัวเอง ตกเป็นเป้าสายตาคนบนเตียงเขม็ง
ใช้เวลาพิสูจน์คน มันก็เป็นทางออกที่ดีเหมือนกัน เจ้าชายซาเลมเอ่ยรับ ลองปิดข่าวเรื่องฉันสักระยะหนึ่งให้เหมือนกับว่าฉันตายไปแล้ว ดูว่าใครจะมีท่าอย่างไรบ้าง ฉันจะได้พิสูจน์อะไรหลายๆอย่างด้วย ว่าหากปราศจากชีวิตฉันบนอัคไบยาห์ บัลลังก์ฮิลมิชาลก็ต้องกระทบกระเทือนไปด้วย ไอ้คนหน้าไหนบ้างที่มันต้องการทำลายล้างสิ่งที่ฉันก่อสร้างร่างทำมาตลอดเจ็ดปี จะได้รู้กัน
เสียงร่างสูงใหญ่ ทอดถอนใจ
แม้จะรู้ว่า ผลลัพธ์มันอาจออกมาไม่เหลือใครอยู่เคียงข้างฉันเลยก็ตาม
ฝ่าบาท!”
พันตรีอาเหม็ดร้อง
คนตายไปแล้ว จะมีความหมายอะไรกับการเมือง การเมืองมันเรื่องของอำนาจของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะมนุษย์ไม่เคยมีความจริงใจกับคนที่ตายไปแล้ว นอกจากให้อนุสาวรีย์ คนที่มีชีวิตอยู่ต่างหากที่เขาจำเป็นต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องในเกม
ทุกคนที่รับฟังนึกใจหาย เจ้าชายซาเลมมองเห็นด้านมืดของมนุษย์มาโดยทะลุปรุโปร่ง ชีวิตที่เต็มไปด้วยความมืดมิดแม้แต่จิตใจผู้คนที่ยืนอยู่รอบข้าง หรือแม้แต่คนที่เคยให้คำสัตยาบันว่าจะไม่ทำร้ายพระองค์ ก็ยังเป็นผู้ลงมือได้
มนุษย์ไม่ได้มีความดีมาแต่กำเนิด
หากการเรียนรู้ต่างหากที่ขัดเกลาให้มนุษย์รู้จักความดีและความรักที่จะมีให้เพื่อนร่วมโลก แต่ถ้าเป็นเรื่องความโลภ มันเป็นสันดานดิบของมนุษย์ จะเอาเรื่องความดีงามมาพูดให้คนเหล่านี้เข้าใจ เห็นจะยาก!
แต่ครั้งนี้ฉันอยากพิสูจน์คน ไม่ใช่หาคนที่จงรักภักดี และอยากจะแสวงหาคนที่จะช่วยค้ำจุนประเทศนี้ให้อยู่รอดปลอดภัยตามแนวทางของฉัน






  เรื่องที่ผ่านพ้นไป หวังว่าพระองค์คงทราบถึงหน้าที่ของเราแต่ละคน ข้าเป็นนักบวชมีหน้าที่ปกป้องจารีตประเพณ๊ แต่เรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับจารีต จะเป็นการเมืองหรือการใช้อำนาจการปกครอง เป็นหน้าที่ของเชื้อพระวงศ์เช่นพระองค์ พวกข้าคงไม่อาจก้าวก่าย
แต่บ้านเมืองจะไปข้างหน้าได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคนที่จะใช้อำนาจปกครอง เมื่อท่านได้ยกอำนาจให้กับคนที่ไม่มีความสามารถ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยบ้านเมืองนี้ได้อย่างไร
เจ้าชายซาเลมตอบด้วยน้ำเสียงยังคงกร้าวกระด้าง บ่งบอกถึงสิ่งที่คั่งค้างในพระทัยของเจ้าชายชุดดำ ผู้สูญสิ้นอำนาจวาสนาในราชบัลลังก์ สาเหตุหนึ่งก็มาจากนักบวชคนนี้ ยาซีนหัวเราะจนน้ำตาที่เอ่อคลอไหลหยดออกมา
อำนาจมันขึ้นอยู่กับสิ่งใด เจ้าชายซาเลม อำนาจมันอยู่ในสิ่งใดกันแน่ ชื่อตำแหน่ง หรือผู้ที่ใช้มัน ข้าว่าพระองค์รู้อยู่แก่พระทัย นักบวชชราพึมพำบทสวดมนต์แผ่วเบา ก่อนจะถวายคำนับให้เจ้าชายซาเลมอย่างเคารพด้วยใจจริง
เจ้าชายซาเลม อัสวัด ถึงกับยืนนิ่งงัน คำพูดของยาซีน มุสตอฟา ราวกับตอกย้ำความคิดของเจ้าชายชุดดำให้หนักแน่นขึ้นไปอีก
อำนาจมันอยู่ที่ผู้รู้จักใช้มัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่อตำแหน่ง สิ่งใดคืออำนาจ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบ เพราะคำตอบของมันคือทฤษฎีมากมายที่จะมาอรรถาธิบายกับคำว่า อำนาจ
แต่ควรตั้งคำถามว่า ผู้ใดเป็นผู้ใช้อำนาจนั้นต่างหาก ที่คำตอบจะต้องออกมาว่าเป็นผู้ใด เป็นใครคนไหนกัน
กษัตริย์ หรือคนที่ใช้อำนาจกษัตริย์!




พวกข้าเป็นพวกนักศึกษาที่มีเกียรติ เป็นกลุ่มคนรักชาติที่ไม่หวังอำนาจลาภยศอะไร ไม่ใช่พวกสถุลที่ฝ่าบาทจะมาไล่เหมือนพวกข้าราชการงี่เง่า ฝ่าบาทเห็นพวกข้าเป็นอะไร
อิลิซยังโต้เถียงไม่หยุด
เป็นคนโง่กลุ่มหนึ่งที่ถูกคนอื่นเขาปั่นหัวนะสิ พวกเจ้ามันมีแต่อุดมการณ์ที่คนอื่นเขาบอกเล่า แต่ไม่สามารถคิดเองได้ เอาแต่ความคิดของคนอื่นเขามาเป็นคำพูดของตัวเอง มันถึงไม่รู้จักการวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดี หากพวกเจ้าใช้สมองจริงๆ ก็คงรู้ว่าถ้าร่วมมือกับทหารทะเลทรายกับชีคอัลจูนาย ย่อมไม่ใช่การปกป้องประเทศแต่เป็นเครื่องมือทำลายประเทศของพวกมหาอำนาจข้างนอกที่ต้องการแทรกเข้ามา


โลกสมัยใหม่...ไม่มีใครคิดเรื่องรัฐประหารง่ายๆอย่างนั้นกันแล้ว เจ้าชายซาเลมกล่าวขึ้น
เรื่องรัฐประหารเป็นเรื่องของประเทศที่ไม่ได้มีผู้นำแบบความคิดสมัยใหม่ ผมเรียนรู้แนวคิดการปกครองมาจากโลกเสรี ผมรู้จักวิธีรับมือกับประเทศรอบข้างโดยใช้วิธีการต่อรองและผลประโยชน์ เครือข่ายของผมทั้งในและนอกประเทศ ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจและผลประโยชน์ทั้งหมด ไม่มีเรื่องไหนที่ผมต้องใช้กำลังทางทหาร ถึงตอนนี้ทหารทุกคนอยู่ในมือผม แค่ผมสั่งคำเดียว ประเทศนี้เป็นของผม ผลลัพธ์ของรัฐประหาร คือกระชากอัคไบยาห์ถอยหลังไปอีกสิบปี ระบบเศรษฐกิจพัง นานาประเทศไม่ให้ความเชื่อถือ เมล็ดเงินที่เวียนอยู่ในตลาดหุ้นจะหยุดชะงัก เหมือนคราวที่เกิดกบฎติดๆ กันหลายเดือนครั้งนั้น ผมยังจ่ายดอกเบี้ยที่ขาดทุนตลาดหุ้นเมื่อปีที่แล้วไม่หมดเลย... เจ้าชายซาเลมหัวเราะกับคำพูดตัวเอง
แต่พอผมมีกำลังทหารเข้า ทุกคนก็คิดแต่ว่าผมต้องรัฐประหารแน่ๆ แต่มันเป็นการกระทำที่ไปเปิดแผลให้กับอัคไบยาห์ที่ผมอุตส่าห์สร้างมาตลอดเจ็ดปี
ฬิดากระชับแขนที่โอบรอบตักกว้างนั้นเบาๆ...เจ้าชายของฉัน สิ่งที่ฉันเฝ้าดูพระองค์อยู่นับว่าดูไม่ผิดจริงๆ พระองค์ไม่ได้มีความคิดอ่านเฉกเช่นพวกนักการเมืองรุ่นเก่า แต่เป็นพวกหัวสมัยใหม่เสียจนนักการเมืองในประเทศนี้ที่ยึดติดกับระบบการเมืองแบบเก่าแบบราชาธิปไตยแบบเดิมๆ ไม่มีใครอ่านพระองค์ได้ทัน
ผมกำลังพยายามล้มเลิกความคิดรัฐประหารนั้นอยู่ แต่มันก็ทำจากเหมือนกันนะ ฬิดา
เจ้าชายทรงสารภาพความในพระทัยจริง...
อำนาจที่ลอยอยู่ข้างหน้า เพียงแค่เอื้อมมือคว้าด้วยคำว่า รัฐประหารมันก็มาอยู่ในความครอบครอง แต่พระองค์กลับเลือกหน ทางอ้อมที่ในการเอาอำนาจนั้นคืน มันจึงยากที่จะทำใจ
ฝ่าบาทน่ะเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักการเมืองเลยสักนิด
คุณว่าผมเป็นนักธุรกิจอย่างนั้นหรือ
ตั้งแต่ฉันเห็นฝ่าบาทมา ก็เห็นคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ ที่ต้องระมัดระวังองค์ก็เพราะจะปกป้องผลประโยชน์ของงานและของพระองค์เองตลอดมา ทุกสิ่งที่พระองค์ทำ ต้องเคาะถึงผลได้ผลเสียแล้วไม่เรียกว่า นักธุรกิจ จะเรียกว่าอะไรเพคะ เวลานี้สิ่งที่พระองค์กังวลน่ะ คือเรื่องโครงการท่าเรือที่นาฬูป์ เพราะนั่นคือความใฝ่ฝันและเม็ดเงินมหาศาลที่ทรงลงทุนไป ทรงกลัวขาดทุนนะสิเพคะ ฉันรู้หรอก
นี่คุณชม หรือแกล้งว่าผมเป็นคนเห็นแก่ผลประโยชน์กันแน่ฬิดาเสียงหัวเราะในลำคอของคนพูดดังขึ้นเบาๆ
ฉันพูดอย่างที่ฉันเห็นจริงนี่เพคะ นักธุรกิจการเมืองอย่างเจ้าชายซาเลม ถ้าจะก่อรัฐประหารก็เหมือนยอมเสียเงินเป็นแสนๆ ล้านของอัคไบยาห์ พระองค์ไม่ยอมให้เสียหายอย่างนั้นแน่
ซาเลมโน้มองค์ลงจุมพิตเรือนผมเธอเบาๆแทนคำชื่นชม
ฬิดา...ทำไมคุณต้องมานั่งอ่านใจผมทั้งหมดแบบนี้ด้วยนะ รู้ไหมว่าคนทั้งประเทศเขากำลังกลัวผมทำรัฐประหารกันแทบเป็นแทบตาย มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่เชื่อว่าผมจะไม่ทำรัฐประหาร
เพราะฉันรู้ว่าพระองค์รักประเทศนี้แค่ไนนะสิเพคะ ความฝันของพระองค์นะคือสร้างประเทศนี้ให้เจริญก้าวหน้า หากพระองค์อยากได้เป็นกษัตริย์ถึงกับต้องรัฐประหาร เจ็ดปีที่ทรงทำมาจะเป็นสูญไป แล้วเงินทองมหาศาลที่ลงทุนไปกับประเทศนี้อีกละ พระองค์คำนวณแล้วว่า ถ้าไม่รัฐประหารแต่เอาทหารมาต่อรอง สิ่งที่พระองค์จะได้มันมากกว่านั้น คืออัคไบยาห์ไม่เสียหาย และพระองค์ก็กระโดดกลับเข้าสู่เกมเหมือนเดิม
ร่างสูงเงียบกริบ นอกจากนิ้วมือที่ยังลูบเรือนผมเธอ โลกทั้งใบออกกว้างใหญ่ ในที่สุดก็มีใครคนหนึ่งเข้าพระทัยพระองค์ราวกับอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน  
ยังเสียพระทัยอยู่หรือเพคะ
เธอถามถึงแววเนตรที่ยังหม่นหมอง ร่างนั้นยอมรับ...
อือม มันเป็นครั้งแรกที่ผมแพ้ การยอมรับความพ่ายแพ้ มันทำใจได้ลำบากจริงๆ ตอนแรกนึกว่าจะรับไม่ได้เหมือนกัน แต่พอได้ฟังคุณพูดเมื่อครู่ สิ่งที่คิดไว้ในใจมันเหมือนโดนคุณอ่านออกมาหมดแล้ว ก็เหมือนมีใครมาช่วยเผยให้เห็นว่าความลำบากใจมันอยู่ตรงไหน ทำให้พอจะเห็นทางว่า ผมควรจะทำใจยอมรับมันได้อย่างไรต่อไป ถูกอย่างที่คุณพูด ผมแค่รอเวลา แล้วกระโดดกลับเข้าสู่เกม มันอาจจะได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์ ดีนะ ที่ผมยังชะลอเรื่องรัฐประหารอยู่ ไม่เร่งมือทำเสียแต่วัน นี่เป็นการแพ้ครั้งแรก ก็เลยรู้สึกเจ็บปวดมาก เมื่อประกาศเป็นทางการแล้วว่าอิลยาสเป็นผู้ชนะ ผมก็ต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ต่อไป
น้ำเสียงดูอ่อนแรง แต่แววตาไม่เคยทิ้งความมุ่งมั่น
ฬิดา ตอนนี้ผมจะต้องทำให้ได้ ต้องทำใจให้ยอมรับคำว่า แพ้ให้ได้ แล้วผมก็จะกลับเข้าสู่เกมนี้อีกครั้ง
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่า พระองค์เจ็บช้ำขนาดไหน ทรงหวังไว้มากและทำทุกอย่างเพื่อการลงคะแนนเสียงรับรองครั้งนี้
คนเรามีแต่วันเวลาที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า เมื่อตัดสินใจที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกัน ก็ต้องผลักให้เขาเดินต่อไปให้ได้ ไม่ใช่เหนี่ยวรั้งกันไว้ หรือยื้อยุดให้ย่ำอยู่กับที่ กับความเสียใจหรือผิดหวังจนไม่ยอมลุกเดินออกมา
คนที่รู้จักวิธีการรับมือกับมันอย่างมีสติรอบคอบเท่านั้น จึงจะอยู่ในสถานการณ์ที่เหนือกว่า เจ้าชายซาเลมทรงเข้มแข็งและเรียบสงบตอบรับสถานการณ์เลวร้าย สูญเสีย ที่มันเหวี่ยงเข้ามากระทบ แม้จะถูกบังคับให้ถอยร่นความฝันลงมาขนาดนี้  พระองค์ยังยอมรับได้อย่างภาคภูมิ และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป
คนยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ผู้ชนะ หากเป็นผู้แพ้
ที่กล้ายอมรับกับคำว่า แพ้ อย่างสง่างามต่างหาก
ฬิดาบอกกับตัวเองว่าเธอรักผู้ชายที่ยิ่งใหญ่คนนี้เหลือเกิน
หญิงสาวอิงหน้าบนตักกว้างนั้น เหมือนจะช่วยซึมซับความเจ็บช้ำจากพระองค์
สายพระเนตรที่อาบทอร่างแบบบาง กลับใจหายมากกว่าความพ่ายแพ้ที่สร้างความรู้สึกให้ขณะที่พระองค์ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดเหมือนมีใครบางคนส่งฬิดาคนนี้เข้ามาใกล้ชิด เพื่อให้เข้าถึงจิตใจที่หน่วงหนัก เมื่อเข้าสู่ห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก กลับมีเธอคนนี้ช่วยเหนี่ยวรั้งให้นั่งตรง
ร่างสูงโน้มลงมาจุมพิตเรือนผมเธอเบาๆ อีกครั้งอย่างใจหาย สิ่งที่เพิ่งสูญเสียไป มันใกล้จะสูญเสียสิ่งสุดท้ายนี้อีกหรือไม่ ขออย่าให้สิ่งใดมากระทบกับฬิดาของพระองค์อีกเลย
อย่าให้วันนั้น...มาพรากฬิดาไปจากพระองค์
พระองค์เก็บความรู้สึกกังวลในพระทัย ก่อนจะเอนตัวลงพิงเก้าอี้รับแสงพระอาทิตย์ที่กำลังทอแสงนวลตา มาตามขอบฟ้าด้านหน้า แล้วใช้ความคิดต่อไปในความเงียบสงบทั้งสองคน

เช่นที่ข้าเคยบอก...เจ้าชายซาเลม เกิดมาใต้ดาวคู่ของอัคไบยาห์ แล้วท่านจะต้องการคำทำำนายใดจากข้า
เมื่อดาวคู่ปรากฎบนฟ้า
หนทางยาวไกลข้างหน้า
ไปจนสุดฟ้า เป็นได้เพียงเงา
ไม่อาจเอื้อมเอาถึงตะวัน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น