วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านเร็ว จำได้...นสพ.M2F


        การทำความเข้าใจกับเอกสารหรือหนังสือต่างๆ ใครเคยประสบปัญหาอ่านแล้วงง หาจุดไม่เจอ เข้าใจยากบ้าง วันนี้เลยนำเคล็ดลับเรื่องการอ่านของหนูดี วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัขฉริยภาพด้านสมองมาฝาก
         
          ขั้นที่หนึ่ง-ตั้งเป้าหมาย อ่านเพื่ออะไร
          เมื่อหยิบหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง อย่าหยิบโดยไร้เป้าหมาย อย่าคิดว่าแค่อ่านเล่นๆ เพลินๆ ต้องตั้งเป้าไปให้ชัดเลยว่า ต้องการข้อมูลละเอียดแค่ไหน อ่านแล้วต้องนำไปทำอะไรและมีเวลาจะลงทุนกับหนังสือเล่มนี้สักกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมง หรือกระทั่งกี่วัน
         
        ชั้นที่สอง-ดูหัวข้อให้ติดตา
        การที่เราดูเฉพาะหัวข้อก่อน ก็เพื่อให้เรา รู้เขา รู้เรา แล้วให้เทียบสิ่งที่เรารู้แล้ว ก็จะรู้ว่าตรงไหนจำเป็นต้องอ่านและตรงไหนกระโดดข้ามได้ ขั้นนี้ไม่ควรใช้เวลาเกิน 5นาที สำหรับหนังสือเล่มใหญ่ๆ และไม่ควรเกิน 1 นาที สำหรับบทความขนาดกลาง

          ขั้นที่สาม-ตามองผ่านก่อนอ่านเนื้อหา (การใช้ประโยชน์จากจิตใต้สำนึกของเรา)
          การเปิดผ่านหน้าละไม่เกิน 1-2 วินาทีนั้น จะทำให้สมองส่วน จิตใต้สำนึก พิมพ์ประทับภาพของหนังสือเข้าไป จริงๆแล้วสมองเรามีคลังข้อมูลเยอะมากที่ไม่ได้ถูกกระตุ้นทุกๆวัน การเปิดผานเร็วๆจนอ่านไม่ทันนี้ จะไปกระตุ้นให้คลังความรู้ขนาดใหญ่ของเราตื่นตัวขึ้นมาพร้อมให้ใช้งาน ให้ทำขั้นตอนนี้ก่อนนอน
         
          ขั้นที่สี่-เจาะลึกข้อมูลที่ไม่รู้
        คนที่อ่านเร็วคือคนที่รู้ว่า ไม่ต้องอ่านตรงไหน และสามารถพุ่งไปที่ข้อมูลสำคัญต่อการประชุมหรือการทำงานในเวลาอันกระชั้นได้ ตอนนี้เราน่าจะพอรู้เลาๆแล้วว่า หนังสือตรงหน้าเราหนึ่งเล่ม เราไม่รู้ตรงไหนบ้างในขั้นรองสุดท้ายนี้จะพุ่งไปอ่านตรงจุดที่ ไม่เข้าใจที่สุด อ่านให้กระจ่าง แต่ถ้ายังงง ให้หาทางขอความรู้กับผู้รู้ทันที ค่อยๆไล่มาจนถึงข้อมูลที่ไม่ค่อยเข้าใจ และเว้นข้อมูลที่รู้แล้วไว้อ่านเป็นลำดับสุดท้ายเมื่อมีเวลาเหลือ
         
          ขั้นที่ห้า-อ่านได้สบายตามที่ใจต้องการ
        ขั้นตอนสุดท้ายนี้ จะคล้ายกับการอ่านแบบปกติของเรามากที่สุดคือ แบบลงรายละเอียดทั้งลึกและนานได้ตามที่ต้องการ แม้กระนั้นก็อย่านิ่งนอนใจ ทุกครั้งที่เราอ่านหนังสือที่ต้องนำข้อมูลไปใช้งานจริงในอนาคตเราไม่ควรนั่งสบายๆ แล้วอ่านไปเรื่อยๆ แต่ควรมีกระดาษเปล่า สมุดจด และปากกาหลากสีเตรียมไว้พร้อมโน้ตข้อมูลให้พร้อม การมีกระดาษ ปากกา จะเป็นการบังคับสมองให้มีเป้าหมาย ไม่ง่วงเพลีย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น