“ ข้า...อขิทโร ดวงจิตสูงส่ง
ข้า บริกรรมตบะฌานผ่านเม็ดประคำ บำเพ็ญเพียรสู่มรรคา เวทยามนตราใดมิอาจสะกด ให้ข้าหยุดภาวะแห่งการภาวนา ”
คือ ปฐมบทแห่ง ‘ อขิทโร ‘ ลูกปัดมนตรา
ลูกปัดที่มิใช่ใส่เพื่อความสวยงาม แต่นี้คือความหมายอันยิ่งใหญ่เกินกว่ามนุษย์นับร้อยนับล้านทั้งสิ้นในโลกจะสัมผัส หากผู้หนึ่งถึงกับยอมอุทิศวิญญาณฝังไว้ในเม็ดลูกปัด...นับพันปี
กาลบัดนี้...อย่าได้ลืมตนว่าเป็นใคร
และ ‘ อขิทโร ‘ เกิดขึ้นมาเพื่อสิ่งใด
“ เหตุย่อมเกิดมาจากปัจจัย แต่ปัจจัยนั้นจะมาจากอดีตอันใกล้หรือมาจากอดีตอันไกลโพ้น ก็ขึ้นอยู่กับวาระของมัน ”
เฉกนี้ ดวงจิต ‘ อขิทโร ‘ อันยิ่งใหญ่ คุมดวงจิตผู้คนนับอสงไขย ดวงจิตผู้ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง...ไฉนจึงมิรู้ ‘ ที่มา ‘ แห่งตน!
ใช่! เหตุแห่งรู้-มิรู้...ยิ่มเกิดมาจาก ‘ ปัจจัย ‘
แต่อะไรคือปัจจัย อะไรคือเหตุ อันส่งผลมาสู่ ณ ปัจจุบัน
“ ตบะเตโชแห่งอขิทโร มหาศาลเกินเสียกว่ามนตราใดในสิบสองจักรวาลจะทาน บัดนี้ตลอดทั้งยี่สิบหกชั้นสวรรค์ยังอำนวยพร แม้แต่ร้อยยี่สิบแปดขุมนรกยังเกรงใจ หากมีใครไหนจักยิ่งใหญ่กว่า ถึงสะกดอขิทโร ดวงจิตสูงส่งไว้...นานนับพันปี มิให้รู้ความเป็นมาของตน ”
“ ดูเหมือนเจ้าจะรู้จักข้าดีนัก ”
“ ถ้าอยากรู้ความจริง ก็แลกเปลี่ยนกับข้า เปิดทางให้ข้าเข้าหานางหยุดปกป้องคุ้มครองนาง ปล่อยนาง...ให้นางเป็นของข้า! ” กลุ่มควันทึบทะมึนครืนคราม คำรามท้าทายอขิทโร
“ ข้ายอมเช่นนั้นมิได้ และมิยอมแลกท่านหวายินกับสิ่งใดชั่วนิรันดร์ ”
ลืมแล้วหรือ...อขิทโร เกิดขึ้นมาเพื่อสิ่งใด
เพื่อมนตรายิ่งใหญ่ ฤา สู่หนทางแห่งมรรคา
หรือดั่งที่เจ้าลั่นคำ “ ข้าไม่ต้องการรู้สิ่งใดอีก แม้ความเป็นมาของข้า ข้าจะขออยู่ปกป้องนาง ด้วยดวงจิตและตบะทั้งหมดของตัวข้าที่มี ”
“ แล้วเจ้าจะเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ อขิทโร ฌัลล์ ”
“ ข้า-ไม่-เสีย-ใจ “
‘เขา’ ยังคงทำหน้าที่ติดตามปกป้องเธอ ‘ หว่าหว้า ‘ อย่างใกล้ชิดและบำเพ็ญเพียรตบะของเขาอยู่กับเส้นลูกปัดบนเรือนกาย
เขาและเธอ...จะเฝ้าตามหาสิ่งของมีค่า...ลูกปัดมนตรา
ที่มีนามของเขาจารึกไว้ คำนั้น...อขิทโร!
“ ฉันขอโทษฌัลล์ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ไล่นายไปไหน ฉันต้องอยู่ไม่ได้แน่ๆ เลยถ้าไม่มีนาย นายต้องคอยดูแลฉันและฌัลล์...” มีเธอคนเดียวหรือเปล่าที่รู้ว่ามันจะออกมาจากหัวใจ
ฌัลล์ล่ะ อขิทโร...หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่งมิใช่หรือ
“ ดูแลฉันตลอดไปด้วยนะ...ฌัลล์ ”
ดวงจิตสว่างวาบ...หากปราศจากข้า ท่านใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังไม่ได้อย่างนั้นหรือ แล้วไม่คิดถึงหัวอกข้าบ้างเล่า...จะอยู่โดยปราศจากท่านได้อย่างไร
เราจะค้นหาปริศนาแห่งลูกปัดมนตรา...ที่มาแห่งฌัลล์
และหยั่งลึกซึ้งถึงถ้อยคำ...’ ต่างอยู่โดยปราศจากกันไม่ได้ ’
หากจะทำฉันใด เมื่อหนึ่งคือดวงจิตสูงส่งแห่งอขิทโร อีกหนึ่งคือดวงใจอันพิศุทธิ์ของหว่าหว้า เช่นนี้ นับจาก ‘ ลูกปัดมนตรา ‘ เราคงต้องพบกันอีกครั้งใน ‘ อขิทโร ลูกปัดสิเน่หา ‘ เป็นแน่แท้
รัชนก นามทอน
บรรณาธิการ
สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
เดือนมีนาคม 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น